กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--IFEC
IFEC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2550 เป็นผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิทั้ง 3 ไตรมาส สูงถึง 56.28 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 80.18% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2549 ส่งผลล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด
บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการจำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องถ่ายเอกสารระบบดิจิตอล มัลติฟังก์ชั่น ยี่ห้อ โคนิก้า มินอลต้า (KONICA MINOLTA) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยมากว่า 25 ปี เป็นบริษัทฯเดียวในตลาดหลักทรัพย์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องถ่ายเอกสาร และเป็นบริษัทของคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ ด้วยทุนจดทะเบียน 408.68 ล้านบาท
นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ ประธานคณะกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า บริษัทฯ เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2520 ด้วยทุนจดทะเบียน 0.5 ล้านบาท และได้ขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง และเปลี่ยนฐานะจาก บริษัท ..จำกัด เป็น บริษัท ..จำกัด (มหาชน) ในปี พ.ศ. 2537 หลังจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ส่งผลกระทบต่อฐานะการดำเนินการของบริษัท จนกระทั่งบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ครั้งที่ 1 ในปี 2543 และครั้งที่ 2 ในปี 2544 และในปี 2548 บริษัทฯ ได้ออกจากการแผนฟื้นฟูกิจการ และตลาดหลักทรัพย์ฯได้อนุญาตให้กลับเข้าซื้อขายหุ้นได้อีกครั้ง ในหมวดเครื่องใช้ครัวเรือน และสำนักงาน ในปี 2549
สำหรับรายได้หลักของบริษัทไอเฟค คือ การทำธุรกิจตัวแทนจำหน่าย และการให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสารดิจิตอลมัลติฟังชั่นของ โคนิก้า มินอลต้า จากญี่ปุ่น นายดำริห์ เอมมาโนชญ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ปฏิบัติการ กล่าวว่า “บริษัทมีนโยบายการตลาด ทั้งการขายและการให้เช่าโดยตรงถึงผู้บริโภค (End Users) รวมถึงการทำตลาดการขายและให้เช่าผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 45 รายทั่วประเทศ โดยเน้นไปที่องค์กรที่มีศักยภาพ และมีความต้องการใช้งานถ่ายเอกสารและงานพิมพ์ในปริมาณสูง ฐานลูกค้าหลักประกอบด้วยภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน ประมาณ 5,000 ราย เราให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจ โดยมีบริการ IFEC Customer Care Center เพื่อทำหน้าที่รับแจ้งซ่อม และกำกับดูแล ซึ่งบริษัทฯ มีสาขารองรับทั่วประเทศ ดูแลลูกค้ารวดเร็ว ทันใจ นั่นทำให้ลูกค้าหลักๆ ยังคงให้ความสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง”
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทนั้น นายสุเทพ ด่านศิริวิโรจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร-บัญชี การเงิน กล่าวว่า ” โดยสรุปผลการดำเนินงาน 9 เดือนที่ผ่านมาในปี 2550 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิ 56.28 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีผลกำไรสุทธิจำนวน 31.24 ล้านบาท เป็นผลให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 25.05 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 80.18 ส่งผลล้างขาดทุนสะสมทั้งหมด ซึ่งปีนี้ถือว่าสูงสุดทั้งในเชิงยอดขาย และกำไร ”
สำหรับแผนของบริษัทในอนาคตนั้น นายณรงค์ เตชะไชยวงศ์ กล่าวว่า
“ เนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เป็นส่วนช่วยให้บริษัทฯ ขยายธุรกิจเอกสารในองค์กรได้ มากขึ้น ซึ่งทำให้ธุรกิจเอกสารโดยมัลติฟังก์ชั่นมีบทบาทสูงขึ้น เช่น บริษัทฯ ได้จัดหาระบบการจัดการเอกสาร (Document Management) มาเสริมให้กับลูกค้า และบริษัทฯ มีโอกาสเสริมรายได้มากขึ้น ตามสโลกแกนของบริษัท คือ Smart Solution นอกจากนี้ บริษัทฯ มองธุรกิจเสริมอีกประเภทหนึ่ง คือ Printing on Demand โดยจัดตั้งศูนย์ให้บริการเอกสารแบบ Digital ที่ให้บริการจัดการผลิตเอกสารอย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านไฟล์ทางคอมพิวเตอร์ และคาดว่ามีโอกาสเติบโตเป็นระบบแฟรนไชส์ได้ ”