กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ปิดที่ 1,726.97 จุด ลดลง 1.5% จากสิ้นปี 2560 และลดลง 3% จากสิ้นเดือนก่อน สำหรับมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ 60,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2561 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของกลุ่มประเทศในอาเซียนปรับตัวลดลงทั้งหมดซึ่งสอดคล้องกับทิศทางของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลก โดยการเมืองต่างประเทศเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อทิศทางของดัชนี สำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทยโดยภาพรวมยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งโดยกำไรสุทธิในไตรมาส 1/2561 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.3% ทั้งนี้ผู้ลงทุนรายย่อย ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์มีสถานะซื้อสุทธิในเดือนนี้
ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย
- ในเดือนพฤษภาคม 2561 ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิในตลาดหลักทรัพย์ไทย 51,734 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาคที่ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิเป็นส่วนใหญ่ โดยเคลื่อนไหวสวนทางกับตลาดตราสารหนี้ของไทยที่ผู้ลงทุนต่างประเทศมีสถานะซื้อสุทธิ
- ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทย (SET Index) ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 ปิดที่ 1,726.97 จุด ลดลง 1.5% จากสิ้นปี 2560 อย่างไรก็ตาม มี 3 ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มทรัพยากร กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และกลุ่มบริการ ตามลำดับ
- Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ระดับ 15.74 ขณะที่ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 17.62 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.96 เท่า และ 15.62 เท่า ตามลำดับ
- อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ระดับ 2.97% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียที่อยู่ที่ 2.68%
- มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ 17.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% จากสิ้นปี 2560
- มูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai ในเดือนพฤษภาคม 2561 อยู่ที่ 60,905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
- ในเดือนพฤษภาคม 2561 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 391,920 สัญญา ซึ่งเพิ่มขึ้น 9.1% จากเดือนก่อน มาจากการซื้อขาย Single stock futures ที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก