กรุงเทพฯ--30 พ.ย.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
ศรีทองพาณิชย์ ส่ง “ โครโนเทค ” เดินหน้ารุกตลาดนาฬิกาแฟชั่นอย่างหนัก ปีหน้าคาดเศรษฐกิจดีตั้งเป้า 50 ล้าน ดึงดาราสร้างกระแส Emotional Marketing พร้อม อัดกลยุทธ์ CRM เอาใจดีลเลอร์เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดเอาใจขาโจ๋ มีสไตล์ชอบของดีราคาน่าซื้อ
นายองอาจ มหาดำรงค์กุล Management Executive ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีทองพาณิชย์ ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกาโครโนเทค : Chronotech แบรนด์ดังระดับโลกจากประเทศอิตาลี กล่าวว่า ในปี 2551 นี้ คาดว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวมน่าจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แม้ว่าอาจได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันอยู่บ้าง แต่สถานการณ์การเมืองหลังมีการเลือกตั้ง และอารมณ์ของผู้บริโภคที่อัดอั้นจากความ ไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจและการเมืองในช่วงปี 2550 ที่ผ่านมา จะทำให้เกิดกำลังซื้อและการบริโภคสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้นแต่อาจจะลดยอดการซื้อในแต่ละครั้งลง ดังนั้นห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีทองพาณิชย์ จึงยังคงเดินหน้าทำการตลาดในกลุ่มนาฬิกาแฟชั่นอย่างเต็มที่ โดยหลังจากประสบความสำเร็จจากการเปิดตัว นาฬิกาโครโนเทค : Chronotech ไปเมื่อปีที่ผ่านมา สามารถเปิดตลาดในประเทศไทยด้วยยอดขายเพียงแบรนด์เดียวมากถึง 20 ล้านบาท
ในปี 2551 นี้ ทางศรีทองพาณิชย์ จึงได้คัดสรรนำเข้านาฬิกาโครโนเทคที่มีจุดเด่นเรื่องดีไซน์แปลกใหม่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ และนอกจากจะใช้บอกเวลาแล้วยังต้องเป็นเครื่องประดับบ่งบอกลักษณะและสะท้อนความเป็นตัวตนของผู้สวมใส่ได้ โดยได้เปิดตัวคอลเล็คชั่นใหม่ล่าสุด คือรุ่น Active ที่รังสรรค์มาให้เหมาะกับสุภาพบุรุษที่มีไลฟ์สไตล์สปอร์ตโดยเฉพาะ ด้วยตัวเรือนขนาดใหญ่ตามเทรนด์ หน้าปัดสีเหลืองสดหรือส้มหรือน้ำเงินตัดกับสีดำขลับดูโดดเด่น บ่งบอกความคล่องแคล่วทะมัดทะแมงและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ขณะเดียวกันฟังก์ชั่นการใช้งานก็ทนทาน เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่หยุดนิ่งไม่ต้องกังวลกับ รอย ขีดข่วน เสริมความสปอร์ตด้วยการจับเวลาโครโนกราฟและกันน้ำลึก เพื่อให้คุณผู้ชายสนุกสนานไปกับไลฟ์สไตล์อย่างแอ็คทีฟและมั่นใจ
นาฬิกาโครโนเทคสำหรับคุณผู้หญิง คือรุ่น Prisma Revolution Summer ที่ดีไซน์เก๋สวยหวานด้วยหน้าปัดเป็นพีรามิดนูนเห็นมิติของตัวเรือนชัดเจน พื้นด้านในหน้าปัดมีเท็กซ์เจอร์ในตัว ดูสวยงามแปลกตา เพิ่มความหรูหราด้วยเม็ดมะยมฝังคริสตัลวับวาว โดยทั้งสองรุ่นนี้ ทางศรีทองพาณิชย์คาดว่าจะได้รับความสนใจและกระแสตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มนักศึกษาและวัยเริ่มต้นการทำงาน รวมไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องแฟชั่นซึ่งเป็นผู้บริโภคที่ฉลาดเลือกในการบริโภคสินค้า เน้นสินค้านำเข้าที่ดูดีมีสไตล์แต่ขณะเดียวกันก็มีราคาสมเหตุสมผลและอยู่ในกำลังที่ซื้อได้สำหรับสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจนาฬิกาแฟชั่นในปีหน้ายังถือว่ามีความรุนแรง เนื่องจากแต่ละบริษัทมีการนำเข้าสินค้าแบรนด์ใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการทำกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบใกล้เคียงกันคือเน้นการจัดโปรโมชั่นร่วมกับร้านค้าและห้างสรรพสินค้า ดังนั้นโครโนเทคจึงได้ปรับ กลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2551 ให้ชัดเจนและตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น โดยใช้เครื่องมือการตลาดทั้งที่เป็น above the line และ below the line ด้วยการทุ่มทุนมากกว่า 10 ล้านบาทเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทั้งหนังสือพิมพ์และนิตยสารโดยเน้นไปที่สื่อแนวแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ และเน้นการจัดอีเวนท์ในงาน Watch Fair ชั้นนำของเมืองไทยเพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความเป็นอินเตอร์แบรนด์ แต่ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เข้าถึงตลาดวัยรุ่นมากยิ่งขึ้น นอกจากจะมีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศแล้วนั้น ยังขยายไปยังแถบสยามสแควร์ และเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยของกลุ่มวัยรุ่น เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค รุ่นใหม่ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังเห็นว่าปัจจุบันผู้บริโภคใช้อารมณ์ความรู้สึกและกระแสสังคมมาเป็นตัวตัดสินในการบริโภคมากยิ่งขึ้นจึงได้ใช้ Emotional Marketing เข้ามาทำตลาดโครโนเทค โดยใช้ดารานักแสดงและบุคคลที่มีชื่อเสียงมาช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์และสร้างกระแสให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังสานต่อกลยุทธ์ CRM : (Customer Relations Management ) ควบคู่กันไปด้วย โดยมุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่าย (ดีลเลอร์) ในการให้คำแนะนำ พร้อมทั้งดูแลและบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการไปเยี่ยมเยือนดีลเลอร์ทั้งในกรุงเทพ ฯ และต่างจังหวัดบ่อยครั้ง โดยทั้งหมดนี้เราตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายของแบรนด์โครโนเทคใน ปี 2551 ไว้ที่ 50 ล้านบาท นายองอาจ กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด (บริษัทตัวแทนดำเนินงานประชาสัมพันธ์)
Tel: 0-2284-2662 ต่อ 207 Fax: 0-2284-2291-2, 0-2284-2287
คุณบารนี อุปลา 089-477-1903 E-mail: baranee@kanokratpr.com