กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เดินหน้าติดตั้งระบบบริหารร้านค้าปลีก หรือพีโอเอส (POS) ณ ที่ทำการไปรษณีย์อนุญาต (ปณอ.) ร้านค้าโชห่วย ร้านค้าชุมชน และศูนย์โอทอป เสร็จสิ้นแล้วจำนวน 200 แห่งประเทศ โดยตั้งเป้า 5,000 จุดภายในสิ้นปี 2561 พร้อมกันนี้ ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาระบบงาน 3 ส่วนเพื่อสนับสนุน อีคอมเมิร์ซชุมชน แบบครบวงจร ได้แก่ ระบบร้านค้าออนไลน์ (e-Market Place) บนเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสมาร์ท ระบบการชำระเงิน (e Payment) บริการเก็บเงิน ณ ที่อยู่ผู้รับ COD หรือ Cash on Delivery และระบบตรวจสอบควบคุมการขนส่งที่ทันสมัย (e-Logistic)เทคโนโลยีตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงพื้นที่ตำบลหนองกรด อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และตรวจราชการโครงการระบบบริหารร้านค้าปลีก (Point of Sale : POS) ตามโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce ของนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" เมื่อเร็วๆ นี้
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เป็นหน่วยงานที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศเพื่อปฏิรูปประเทศไทยสู่ "ดิจิทัลไทยแลนด์" และขานรับนโยบาย "Digital Community" ของรัฐบาล
ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้มอบหมายให้ไปรษณีย์ไทย ในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญและภารกิจหลักด้านการขนส่ง โดยมีเครือข่ายที่ทำการไปรษณีย์ครอบคลุมอยู่ทั่วประเทศ ในการขับเคลื่อนโครงการ "ดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce" ซึ่ง ไปรษณีย์ไทย ได้ติดตั้งระบบ POS ณ ที่ทำการไปรษณีย์อนุญาต ร้านค้าโชห่วย ร้านค้าชุมชน และศูนย์โอทอป จำนวน 200 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงได้ฝึกสอนให้ชาวบ้าน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้เรียนรู้วิธีการใช้งานโปรแกรม POS จนสามารถขึ้นทะเบียนสินค้าเข้าสู่ระบบออนไลน์แล้วมากกว่า 1,500 รายการ
ดร.พิเชฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาระบบงาน 3 ส่วนเพื่อสนับสนุน อีคอมเมิร์ซชุมชนแบบครบวงจร ได้แก่ ระบบร้านค้าออนไลน์ (e-Market Place) บนเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสมาร์ท (www.thailandpostmart.com) มาร์เก็ตเพลสเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงและสั่งซื้อได้โดยง่าย โดยปัจจุบันได้รวบรวมสินค้าชุมชนกว่า 1,500 รายการที่ได้ลงทะเบียนสินค้าเรียบร้อยแล้ว ระบบการชำระเงิน (e Payment) ระบบการชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเดบิต เครดิต กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ หักผ่านบัญชีธนาคาร เครื่อง ATM รวมถึงบริการเก็บเงิน ณ ที่อยู่ผู้รับหรือที่เรียกว่า COD (Cash on Delivery) และระบบตรวจสอบควบคุมการขนส่งที่ทันสมัย (e-Logistic) ระบบการจัดทำฉลากจ่าหน้า ผนึกบนห่อซองและทำการจัดส่งเข้าสู่ระบบงานขนส่งด้วยระบบ Prompt Post รวมถึงเทคโนโลยีตรวจสอบสถานะการจัดส่งสินค้าผ่านระบบออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ไปรษณีย์ไทย ได้วางแผนขยายจุดติดตั้งระบบบริหารร้านค้าปลีก หรือพีโอเอส (POS) จำนวน 5,000 แห่งทั่วประเทศในปี 2561 พร้อมผลักดัน "อีคอมเมิร์ซชุมชน" การจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านร้านค้าออนไลน์บนเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสมาร์ทสู่การเป็น "อีมาร์เก็ตเพลสระดับประเทศ" (National e-Market Place) เพื่อใช้เป็นตลาดออนไลน์ให้ชุมชนได้ศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการจำหน่ายสินค้าและบริการ สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทำให้เศรษฐกิจระดับฐานรากของประเทศมีความเข้มแข็งนำไปสู่สังคมชนบทให้มีความอบอุ่นและ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน"
ทั้งนี้ ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ลงพื้นที่เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และตรวจราชการโครงการระบบบริหารร้านค้าปลีก (Point of Sale : POS) ตามโครงการดิจิทัลชุมชนด้าน e-Commerce ของนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0"เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ตำบลหนองกรด อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545 หรือเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th