กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทย ลงนามความร่วมมือกับ Bank of East Asia (BEA) ธนาคารชั้นนำจากฮ่องกง หวังสร้างความร่วมมือในด้านการค้าการลงทุน เพื่อสร้างโอกาส เสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ฮ่องกงนับเป็นเขตปกครองพิเศษที่เชื่อมโยงระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่และประเทศอื่นๆ ที่เข้าร่วมในโครงการ "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง" (Belt and Road Initiative) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ในอนาคต และนโยบาย "ก้าวออกไป" (Going out) ของรัฐบาลจีนที่ได้ส่งเสริมให้นักลงทุนจีนออกไปหาโอกาสทางธุรกิจในต่างประเทศก็จะเป็นการสร้างโอกาสด้านการค้าการลงทุนระหว่างประเทศอีกทางหนึ่ง โดยใน 5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการลงทุนเฉลี่ยของฮ่องกงในไทยอยู่ที่ 700 ล้านดอลล่าร์ต่อปี นอกจากนี้ จากการลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกงในปี 2560 ส่งผลให้ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างอาเซียนและฮ่องกงมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ฮ่องกงถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 8 ของไทย จากข้อมูลของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศระบุว่า มูลค่าการค้ารวมในปี 2560 ประมาณ 15,220 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 16.5 โดยไทยส่งออกไปฮ่องกง 12,310 ล้านเหรียญสหรัฐ ของกระทรวงขยายตัวร้อยละ 7.3 และนำเข้า 2,910 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 82 และข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังพบอีกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวฮ่องกงและไทยที่เดินทางไปมาระหว่างกันมีจำนวนทั้งหมด 1.4 ล้านคนในปี 2560
จากข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดด้านการค้าระหว่างไทย-ฮ่องกง ดังกล่าวธนาคารกสิกรไทย และ Bank of East Asia (BEA) ธนาคารชั้นนำจากฮ่องกง จึงได้ร่วมลงนามเพื่อขยายความร่วมมือในการมุ่งแสวงหานวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน และให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศ อันจะสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจและเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างไทยและฮ่องกงให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ธนาคารกสิกรไทยได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการกำกับดูแลภาคธนาคารของจีน (CBRC) ให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียนเต็มรูปแบบ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ เมืองเซินเจิ้น พร้อมเครือข่ายบริการ ได้แก่ สาขาเซินเจิ้น สาขาเฉิงตู สาขาเซี่ยงไฮ้ สาขาฮ่องกง สำนักงานผู้แทน ณ นครปักกิ่ง และสำนักงานผู้แทน ณ เมืองคุนหมิง ซึ่งการได้รับใบอนุญาตให้ตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่น ทำให้ธนาคารสามารถให้บริการลูกค้าบรรษัทได้อย่างครบวงจร ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าบรรษัทและลูกค้าบุคคลของธนาคาร ทั้งที่เป็นลูกค้าคนไทยในฮ่องกง หรือลูกค้าฮ่องกงโดยตรง จึงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับธนาคาร BEA ธนาคารชั้นนำของฮ่องกงในครั้งนี้ จะนำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าของทั้งสองธนาคารมากยิ่งขึ้น รวมทั้งยังกระชับความสัมพันธ์ทางธุรกิจของประเทศไทยกับฮ่องกงและจีนให้มากยิ่งขึ้นในอนาคต
ดร.เดวิด เค.พี.ลี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bank of East Asia (BEA) ฮ่องกง เปิดเผยว่า ธนาคาร BEA และธนาคารกสิกรไทยให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงทางธุรกิจระหว่างฮ่องกงและประเทศสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ดังนั้น ธนาคารทั้งสองจึงได้ส่งเสริมให้มีการลงทุนโดยตรงจากฮ่องกงสู่ประเทศไทยมากขึ้น
Bank of East Asia (BEA) จัดตั้งขึ้นในปี 2461 ปัจจุบันเป็นกลุ่มให้บริการทางการเงินชั้นนำของฮ่องกงเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน (Greater China) และประเทศอื่นๆ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 BEA มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 103.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเป็นหลักทรัพย์ที่รวมในการคำนวณดัชนีราคาฮั่งเส็งด้วย