กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--
"นายแพทย์สมชาย จันทร์สว่าง" ซีอีโอ "บมจ.โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง" เดินหน้าเสริมทีมแพทย์คลินิคเฉพาะทาง 24 ชม. พร้อมให้บริการ "หน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง" หรือ EMS เน้นรวดเร็ว มาตรฐาน ปลอดภัย ทันสมัย ครบวงจร ขณะที่ "เชน เหล่าสุนทร" มั่นใจผลงานปี 61 โตก้าวกระโดด-กำไรทะลัก รพ.วัฒนแพทย์ อ่าวนาง เดินหน้าตามแผน เตรียมเปิดไตรมาส 4/61 นี้ ส่วนรพ.วัฒนแพทย์ สมุย อยู่ระหว่างเขียนแบบเตรียมยื่น IEE เร็วๆ นี้ หนุนธุรกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในระยะยาว
นายแพทย์สมชาย จันทร์สว่าง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) ( WPH) เปิดเผยว่า โรงพยาบาลฯมีเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ คุณภาพการรักษา วิทยาการที่ทันสมัย บริการครบวงจรและได้มาตรฐาน ควบคู่ไปกับการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม จึงมุ่งเน้นพัฒนาคลินิคเฉพาะทาง อาทิ อายุรกรรมสมองและระบบประสาท หัวใจ และทางเดินอาหาร เนื่องจากเป็นแผนกที่มีผู้ป่วยอันดับต้นๆ ของประชาชนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
"เราจึงได้เสริมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยบุคลกรทางการแพทย์ฝ่ายต่างๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และเพื่อให้ผู้รับบริการสามารถเข้าถึงระบบการแพทย์ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และได้มาตรฐาน ด้วยเครื่องมือทันสมัย นอกจากนี้ เรายังมีคลินิคหัวใจ และคลินิคเด็ก พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยแพทย์เฉพาะทางเพื่องานวินิจฉัยโรค และให้ผู้ป้วยได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีอีกด้วย" นายแพทย์สมชาย กล่าว
นอกจากนี้ โรงพยาบาลฯ ได้ร่วมกับศูนย์นเรนทร 1669 จังหวัดตรัง เพื่อให้บริการ "หน่วยปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินระดับสูง" หรือ EMS โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลประชาชนจังหวัดตรังให้มีโอกาสเข้าถึงระบบการแพทย์ที่มีคุณภาพได้อย่างรวดเร็ว ด้วยทีมแพทย์และพยาบาลที่ผ่านการฝึกทักษะเฉพาะสำหรับการกู้ชีพชั้นสูง และการดูแลผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ เน้นคำนึงถึงความรวดเร็ว ความปลอดภัยสูงสุด ลดอัตราการเสียชีวิตและความพิการของผู้รับบริการ
ด้านนายเชน เหล่าสุนทร รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลฝ่ายการเงิน บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) (WPH) กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานของปี 2561 ว่า คาดว่าจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยในที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ประกอบกับแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยในปี 2561 ยังมีทิศทางขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมู่เกาะภาคใต้ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวสวยงามติดอันดับโลก อีกทั้งบริษัทฯ มีพันธมิตรท้องถิ่นที่จะสามารถส่งมอบหรือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทั้งทางบก และทางน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพพร้อมรับทุกสถานการณ์อีกด้วย
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการลงทุนก่อสร้างโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ อ่าวนาง ปัจจุบันได้ขึ้นโครงสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมงานตกแต่งภายใน ซึ่งเป็นไปแผนการก่อสร้างที่วางไว้ จึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้แน่นอน ส่วนความคืบหน้าโครงการลงก่อสร้างโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ สมุย ปัจจุบันอยู่ระหว่างเขียนแบบเพื่อยื่นรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (Initial Environmental Examination : IEE) ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2562
"นอกจากแผนงานดำเนินด้านการแพทย์แล้ว เรายังมุ่งเน้นขยายฐานผู้ใช้บริการจากการขยายพื้นที่การให้บริการอีกด้วย โดยมุ่งเน้นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมีประชากรทั้งไทยและชาวต่างชาติเดินทางหมุนเวียนมาท่องเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจตลอดทั้งปี อย่างเช่น พื้นที่อ่าวนาง และพื้นที่บนเกาะสมุย ซึ่งเราคาดว่าหากการก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมให้บริการ จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืน สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นได้ในระยะยาว และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องการสาธารณสุขแก่นักท่องเที่ยวและประชากรในพื้นที่อีกด้วย" นายเชน กล่าวในที่สุด