กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยยอดลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ใน 2 ไตรมาสย้อนหลัง ระหว่างเดือนตุลาคม 2560 – มีนาคม2561 มีมูลค่ารวมกว่า 16,400 ล้านบาท โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนสูงสุดได้แก่ อุตสาหกรรมคลังสินค้า อุตสาหกรรมยาง พลาสติกและหนังเทียม อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม กนอ.คาดว่า แนวโน้มการลงทุนใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 5 -10 % หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญสนับสนุน อาทิ การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ การอนุมัติร่างพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นต้น
นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ผลประกอบการจากการดำเนินงานของ กนอ. ในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2561 (ต.ค.60 – มี.ค.61) พบว่ามียอดพื้นที่ขาย / เช่า จำนวน 827 ไร่ มีเงินลงทุนรวมกว่า 16,400 ล้านบาท และเกิดการจ้างงานกว่า 1,868 คน โดยการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจสูงสุด ได้แก่ 1) อุตสาหกรรมคลังสินค้า 2) อุตสาหกรรมยาง พลาสติกและหนังเทียม 3) อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง 4) อุตสาหกรรมเครื่องยนต์ เครื่องจักร และอะไหล่ และ 5) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ นอกจากนี้ ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา พบว่า 5 อันดับนักลงทุนต่างชาติที่มีการลงทุนมากที่สุดคือ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และเนเธอร์แลนด์
นายอัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า กนอ.ได้คาดการณ์ถึงแนวโน้มการลงทุนใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 5 -10 % หรือประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยดึงดูดสำคัญ อาทิ การลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ เช่น โครงการรถไฟทางคู่ และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่จะช่วยสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในการลงทุน พร้อมกับความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการหลังจากมีการประกาศ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 15พฤษภาคม พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา และความคืบหน้าของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามแนวชายแดน ที่จะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่เน้นการใช้ประโยชน์จากการเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะนิคมฯ ยางพารา และนิคมฯ สระแก้ว ที่พร้อมเปิดอย่างเป็นทางการภายในปลายปีนี้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน กนอ. มีนิคมอุตสาหกรรม 56 แห่ง ใน 16 จังหวัด โดยมีพื้นที่สำหรับขาย / เช่า (รวมพื้นที่ระบบสาธารณูปโภค) ประมาณ 166,063 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ที่ขายและเช่าแล้วจำนวน 87,718 ไร่ และคงเหลือพื้นที่พร้อมสำหรับขาย / เช่า อีกจำนวน 20,695 ไร่ สำหรับมูลค่าการลงทุนสะสมทั้งสิ้น 3.149 ล้านล้านบาท มีผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม4,583 ราย และมีการจ้างงานรวมทั้งสิ้น 607,102 คน
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองประชาสัมพันธ์ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ถนนนิคมมักกะสัน กรุงเทพฯ โทร. 02 2530561 หรืออีเมล investment.1@ieat.mail.go.th