กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--เพลาเพลิน
อุทยานไม้ดอก เพ ลา เพลิน จังหวัดบุรีรัมย์
เพลาเพลินจัดแสดงเทศกาลปทุมมาราชินีป่าฝน พร้อมสัมผัสกลิ่นหอมดอกกระเจียวอัตลักษณ์พื้นถิ่นอีสาน สกัดกลิ่นลงผืนผ้า เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่สากล
เปิดชมทุ่งดอกกระเจียวอันเลื่องชื่อ ความงดงามแห่งไม้ดอกสยามถิ่นอีสานใต้ คงพลาดไม่ได้สำหรับ "เทศกาลปทุมมาราชินีป่าฝน Queen of rain forest" เนรมิตดอกไม้ไทยจากพื้นถิ่นอีสาน ดอกกระเจียว ที่นำมาจัดแสดงเต็มพื้นที่นับหมื่นต้น กว่า 10 สายพันธุ์ และเป็นสายพันธุ์ปรับปรุงพิเศษให้ได้ชมกัน จัดขึ้น ณ อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
ชวนเพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกกระเจียว และโชว์ดอกกระเจียวสายพันธุ์ต่างๆ กว่า 10 สายพันธุ์ สายพันธุ์โชว์ในปีนี้ สีขาวม็องบลัง สีชมพูมะลิ สีแดงกุหลาบ แดงวิเชียร เชียงใหม่พิงค์ ปากนกแก้ว หงส์เหิน และเขียวช๊อคโกแลต ซึ่งความพิเศษที่ปีนี้มี คือการคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากดอกกระเจียว ต่อยอดให้ชาวบ้านในชุมชนได้เพิ่มมูลค่าและความรู้ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการต่อยอด โครงการกระเจียวเพื่อน้องท้องอิ่ม ครั้งที่ 3 กับการย้อมสีผ้าจากสีธรรมชาติ และการตกแต่งกลิ่นหอมจากดอกกระเจียว โดยนำเอาดอกกระเจียวมาสกัดกลิ่นหอมและนำลงบนผืนผ้าพื้นถิ่นของอีสาน ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะผสมผสานกับความรู้ในรูปแบบภูมิปัญญาดั้งเดิมเพื่อนำมาพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ในเทศกาลกระเจียวในปีนี้
ในช่วงเทศกาลปทุมมาราชินีป่าฝน ในครั้งนี้ นอกจากมีการจัดแสดงดอกกระเจียวสายพันธุ์ต่างๆ แล้ว ยังมีอีกโครงการที่ทำมาทุกๆ ปี เป็นการส่งเสริมความรู้ให้กับเยาวชน ต่อยอดสิ่งใกล้ตัวนำมาสร้างมูลค่า และนำเอาดอกกระเจียวมาแปรรูปในโครงการ "กระเจียวเพื่อน้องท้องอิ่ม ครั้งที่ 3 " โดยความร่วมมือในครั้งนี้อุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอ สาขาวิชาออกแบบสิ่งทอและแฟชั่น ที่นำบุคลากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องของการปรับปรุงโครงสร้างผ้า และการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติและตกแต่งกลิ่นหอมจากดอกกระเจียว มาสอนและให้ความรู้เด็กนักเรียนในโครงการ ทั้งหมด 6 โรงเรียน สอนในเรื่องของการนำวัสดุธรรมชาติมาสกัดสี เช่น แก่นฝาง แก่นเข ใบโพธิ์ ใบมะม่วง ซึ่งสีทั้งหมดที่นำมาย้อมจะให้สีที่คล้ายกับสีธรรมชาติของดอกกระเจียวมากที่สุด ทั้งนี้ยังมีเทคนิคการตกแต่งกลิ่นของดอกกระเจียวลงบนผ้าที่ย้อมสีธรรมชาติโดยวิธี Aroma Ball พร้อมใช้สารช่วยยึดอนุภาพกลิ่นให้คงทน เหมาะกับการใช้กับเส้นใยธรรมชาติมากที่สุด ถือเป็นที่แรก และที่เดียว เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์ชูความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอีสาน
พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกลิ่นอายความเป็นอีสานพื้นถิ่น ทั้งดอกไม้และเรื่องราวผ้าพื้นถิ่นกลิ่นหอมดอกกระเจียว ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างสีสันและส่งเสริมการเที่ยวเมืองไทยในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งในช่วงเวลาระหว่าง เดือนมิถุนายน - สิงหาคม 61 เป็นฤดูกาลที่ดอกกระเจียวจะบานสะพรั่งพร้อมกัน เป็นภาพบรรยากาศที่งดงามชวนให้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง
นางพรทิพย์ อัษฏาธร กรรมการผู้จัดการอุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน กล่าวว่า ปัจจุบันทางเพลาเพลินได้นำดอกกระเจียวหรือดอกปทุมมามาต่อยอดและส่งเสริมอยู่ในทุก ๆ ปี ตั้งแต่กาเตรียมหัวพันธุ์ การผสมปุ๋ย เตรียมดินปลูก รวมถึงการวางหัวปลูกและส่งต่อให้เด็กๆ ในพื้นที่เรียนรู้การปลูกเพื่อการจำหน่าย เมื่อในปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้เราอยากได้ความหลากหลายและเพื่อนำมาต่อยอด จึงได้จับมือกับสถาบันเทคโนโลยีกรุงเทพ โดยการที่ได้นำเอาส่วนของสิ่งที่เหลือจากการแสดงโชว์ดอกไม้ในแต่ละเทศกาลจากก่อนที่เราเอาทั้งหมดไปทำลายโดยไม่เกิดประโยชน์ แต่ปีนี้เราสามารถนำดอกไม้เหี่ยวเฉาไปทำน้ำหมัก ทำปุ๋ย และที่มากไปกว่านั้นคือได้นำมาต่อยอดให้น้องๆ ได้นำเอาส่วนต่างๆ ของต้นกระเจียว เช่น ใบ ดอก นำมาทดลองย้อมสี รวมถึงสีจากวัสดุธรรมชาติอื่น เช่น แก่นฝาง แก่นเข ใบโพธิ์ ใบมะม่วง แต่คุณสมบัติของดอกกระเจียวที่เราคิดค้นขึ้นมาใหม่ นั้นก็คือการนำเกสรมาสกัดเป็นกลิ่นหอมได้ด้วยกระบวนการและเทคนิคจาก ดร. สมชาย อุดร อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมเคมีสิ่งทอ และ ผศ. ภัทรานิษฐ์ สิทธินพพันธ์ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอ สาขาออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
ที่มาร่วมแบ่งบันและสอนเทคนิคการย้อมสีจากธรรมชาติและการตกแต่งกลิ่นหอมลงบนผ้าให้ชาวบ้านและเด็กๆ ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการนำความรู้เดิมมาผสมผสานกับเทคนิคใหม่ ต่อยอดสร้างความหลากหลายให้กับชาวบ้าน และเด็กๆ ในโครงการกระเจียวเพื่อน้อง ได้นำไปใช้ประโยชน์ สร้างอาชีพและรายได้เพิ่ม ทำให้ชุมชนเราเข้มแช็งขึ้น ด้วยทรัพยากรธรรมชาติพื้นถิ่นที่ถ้าได้นำมาใช้และรู้จักต่อยอด ก็จะทำให้เรามีรายได้สร้างอาชีพนำผลิตภัณฑ์ออกสู่สากลได้อย่างไม่ยาก โดยทางเพลาเพลินเองได้ช่วยเหลือในการส่งต่อความรู้ ให้เด็กๆ ในโรงเรียนทั้ง 6 โรงเรียน ในจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งโครงการย้อมสีจากวัสดุธรรมชาติและการตกแต่งกลิ่นหอมจากดอกกระเจียวในครั้งนี้ เราได้ความร่วมมือจากภาครัฐในการให้ความรู้ เพื่อนำเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ คุณครูก็สามารถนำความรู้ไปสอนและพัฒนาในการสร้างรายได้เป็นผลิตภัณฑ์ ซึ่งทางเพลาเพลิน เราก็มีตลาดรองรับอยู่คือ จอย ช้อปปิ้ง เพลส เมื่อทำได้ตามมาตราฐานที่ได้รับการยอมรับ เราจะรับซื้อผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเพื่อนำเงินมาเข้าโครงการอาหารกลางวันต่อไป โครงการกระเจียวเพื่อน้อง ครั้งที่ 3 " เราจะได้เห็นผลงานการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากดอกกระเจียวในรูปแบบของผ้าพื้นถิ่น โดยนำผ้าที่ได้ตกแต่งกลิ่นจากดอกกระเจียว การย้อมสีจากธรรมชาติ มาจัดแสดงโชว์ด้วย โดยมีการเปิดจำหน่าย เพื่อนำรายได้เข้าสู่โครงการกระเจียวเพื่อน้องท้องอิ่ม ครั้งที่ 3 พร้อมดอกปทุมมากระเจียวหลากหลายสายพันธุ์ จัดแสดงโชว์ด้วยประติมากรรมวรรณคดีไทย กลางใจเมือง ณ ศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ในเดือนสิงหาคม ที่จะถึงนี้ เพื่อนำรายได้จากการขายดอกกระเจียวและผลิตภัณฑ์ผ้าแปรรูปจากกระเจียว เพื่อสมทบทุนอาหารกลางวันให้น้องๆ ที่ขาดแคลน
"เทศกาลปทุมมาราชินีป่าฝน Queen of rain forest " เนรมิตความสวยงามของดอกกระเจียวหลากหลายสีสันเต็มทุ่งดอกกระเจียว ภายในโรงเรือนจัดแสดงพันธุ์ไม้ตามฤดูกาลกับดอกกระเจียวที่จัดแต่งอย่างสวยงามกับดีไซน์ภายในสวนสวย ไฮไลท์ที่น่าสนใจสำหรับดอกกระเจียวอีกมากมาย เช่น ผ้าพื้นถิ่นกลิ่นกระเจียว การสอนการปลูก การนำกระเจียวมาทำอาหาร ที่ทางเชฟรังสรรค์เมนูพิเศษในแบบพื้นบ้านสไตล์ฟิวชั่น การใช้คุณค่าและสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ของดอกกระเจียว มาปรุงแต่งในแบบฉบับเพ ลา เพลิน และเพื่อต้อนรับเทศกาลวันสำคัญในวันแม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ พาคุณแม่เที่ยวชมดอกกระเจียว ฟรี!!! พร้อมชมความสวยงามของทุ่งกระเจียว สีสันสวยงาม เชิญเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวได้ในเทศกาล " เทศกาลปทุมมาราชินีป่าฝน Queen of rain forest" ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2561 ณ อุทยานไม้ดอกเพ ลา เพลิน บุรีรัมย์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 044-634736-8 หรือทางเวปไซต์ www.playlaploen.com
ปิยะเนตร จิตรุ่งเรือง 088 - 0117499
ประชาสัมพันธ์อุทยานไม้ดอกเพลาเพลิน บุรีรัมย์