กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--พลัส พร็อพเพอร์ตี้
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เผยผลสำรวจอสังหาริมทรัพย์ ภูเก็ต–หาดใหญ่ คึกคักต้อนรับยอดนักท่องเที่ยว-การค้าเติบโตต่อเนื่อง โซนตัวเมืองภูเก็ตเนื้อหอม เป็นจุดศูนย์กลางเดินทางสะดวกทั่วเกาะ และใกล้ชิดสถาปัตยกรรมเมืองเก่า โครงการคอนโดมิเนียมได้รับความนิยม ยอดขาย 81% ด้านหาดใหญ่ตลาดคอนโดฯมาแรงยอดขาย 93% ดีมานด์นักธุรกิจ นักศึกษาท่วมท้น ส่งผลทุกโครงการปิดการขายรวดเร็ว ทำเลถนนกาญจนวณิชศักยภาพสูง เป็นเส้นหลักเชื่อมหาดใหญ่สู่หลายจังหวัด และเชื่อมชายแดนมาเลเซีย ดันการค้าชายแดนสูงสุดในภาคใต้ มูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากผลสำรวจของฝ่ายวิจัยและพัฒนาของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ที่ได้ทำการสำรวจที่อยู่อาศัยในโซนภาคใต้พบว่ามีการเติบโตที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงทั้งด้านท่องเที่ยวและการค้า ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเติบโตในทิศทางเดียวกัน ไม่เพียงเท่านี้ตลาดที่อยู่อาศัยในภูเก็ต และหาดใหญ่ ยังมีแนวโน้มเติบโตจากการได้รับแรงผลักดันจากการพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมที่กระตุ้นเศรษฐกิจทั้ง 2 พื้นที่ให้คึกคักมากขึ้น รวมถึงราคาที่ดินที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดจากข้อมูลของกรมธนารักษ์ พบว่าราคาประเมินในพื้นที่ภูเก็ต ช่วงปี 2555 – 2558และ 2559-2562 โซนใจกลางเมืองเติบโต 19 – 35% ขณะที่ราคาประเมินที่ดินหาดใหญ่ ช่วงปี 2555 – 2558 และ 2559 – 2562 เพิ่มขึ้น 20 – 25%
จากการสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ล่าสุด ปี 2561 พบว่าตลาดหลักคือคอนโดมิเนียม มีสัดส่วนอยู่ที่ 80% มีอุปทานสะสม 13,702 ยูนิต อุปสงค์ให้การตอบรับแล้ว 11,062 ยูนิต และมียอดขายอยู่ที่ 81% ขณะที่ราคาเสนอขายเฉลี่ยทั้งตลาดประมาณ100,000 บาทต่อตารางเมตร
โซนที่มีการเติบโตของราคาสูงคือโซนตัวเมืองภูเก็ต ที่มีราคาขายเฉลี่ยประมาณ 81,000 บาทต่อตารางเมตร เพิ่มขึ้น 13% จากปีก่อนหน้า โดยมีโครงการใหม่ที่คาดว่าจะเข้าสู่ตลาดในปีนี้ราว 1,200 ยูนิต สอดคล้องกับความต้องการที่อยู่อาศัยจากทั้งคนในพื้นที่และจากนักท่องเที่ยวที่เติบโตมากขึ้นทุกปี โดยในปี 2560 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังภูเก็ตมากกว่า 12 ล้านคน เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อน ซึ่งภูเก็ตถือเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของภาคใต้ ด้วยรายได้จากการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ (มูลค่า 330,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 12% ของทั้งหมด) และมีมูลค่าเป็นอันดับ 2 ของประเทศรองจากกรุงเทพฯ อีกทั้งภูเก็ตมีแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งรถไฟรางเบาจากสนามบินภูเก็ตสู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ดังนั้นการเดินทางเชื่อมต่อทั้งเกาะภูเก็ตจึงมีความสะดวกสบาย ที่อยู่อาศัยโซนใจกลางเมืองจึงได้รับการตอบรับที่ดีเพราะสามารถเดินทางไปยังโซนอื่นๆ ได้ ไม่เพียงเท่านี้ในอนาคตภูเก็ตจะพัฒนาสู่ Smart City จะทำให้ราคาที่ดินปรับตัวสูงขึ้น คาดว่าราคาเสนอขายคอนโดฯจะเติบโตขึ้นอีก โดยโซนตัวเมืองราคาน่าจะขยับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องปีละ 8-10 % เนื่องจากในอนาคตจะมีการคมนาคมสะดวกขึ้น จากความคืบหน้าตามแผนการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาของภูเก็ต นอกจากนี้ในส่วนของการนำกลับมาขายใหม่หรือรีเซล (resale) ราคาปรับเพิ่มขึ้น 6-9% ต่อปี เติบโตจากความต้องการของกลุ่มคนทำงานในพื้นที่ นักลงทุน รวมถึงกลุ่มที่ซื้อเก็บไว้เป็นทรัพย์สินและมรดก โดยพบว่าราคาขายรีเซลอยู่ที่ประมาณ 85,000 – 90,000 บาทต่อตารางเมตร คิดเป็นอัตรากำไรประมาณ 4-5% ต่อปี ส่วนการเช่ามีราคาปล่อยเช่าอยู่ที่ 14,000 - 15,000 บาทต่อปี อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 6-7% ต่อปี โดยเน้นปล่อยเช่าให้กับชาวต่างชาติและกลุ่มคนที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ซึ่งถือเป็นกลุ่มประชากรแฝงที่มีอยู่จำนวนมาก ทั้งแรงงาน นักธุรกิจ และนักเรียนนักศึกษา ดังนั้นโครงการที่ได้รับความนิยมจึงเป็นโครงการที่อยู่ในโซนที่ตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวันของผู้อยู่อาศัย ทำให้โครงการที่อยู่ในตัวเมืองได้รับความสนใจเพราะสามารถเดินทางสะดวก และยังแวดล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมเมืองเก่า เปี่ยมด้วยเสน่ห์ที่ผสานหลากหลายวัฒนธรรมทั้งไทย จีน และมลายู
สำหรับพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พบว่าตลาดคอนโดฯเริ่มเติบโตอย่างน่าสนใจ เนื่องจากหาดใหญ่เป็น หัวเมืองที่เป็นประตูสู่ประเทศเพื่อนบ้านเช่นมาเลเซีย จึงเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้าชายแดน การลงทุนที่สำคัญ นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาของ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และยังเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ มีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค จึงส่งผลให้มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ มีการค้าขายกับมาเลเซียที่เติบโต 12% และมีมูลค่าการค้าชายแดนประมาณ 550,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงสุดของการค้าชายแดนของภาคใต้ และจากการที่เป็นศูนย์กลางการค้าและแหล่งงานจึงทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มคึกคักขึ้น โดยล่าสุดพบว่ามีอุปทานเสนอขายสะสม 2,970 ยูนิต อุปสงค์ให้การตอบรับ 2,763 ยูนิต มียอดขายสูงถึง 93% ซึ่งโครงการที่เปิดขายเหล่านี้ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น ปิดการขายได้เร็ว เนื่องจากอยู่ใกล้สถานที่สำคัญเช่นมหาวิทยาลัย ศูนย์การค้าที่สำคัญ และพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ทำให้ตัวโครงการมีความน่าเชื่อถือ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางที่แตกต่างจากโครงการทั่วไปในตลาด ปัจจุบันไม่พบอุปทานคงค้างแล้วในโซนนี้ หากมีโครงการเปิดใหม่จึงคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้เร็ว โดยพบว่าผลตอบแทนจากการขายต่ออยู่ที่ประมาณ 4% ต่อปี ส่วนการปล่อยเช่ามีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 6-7% ต่อปี โดยโซนที่น่าจับตาคือโซนถนนกาญจนวนิช ซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดหลักของหาดใหญ่ เชื่อมสถานที่สำคัญของหาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียง และเชื่อมไปสู่ชายแดนประเทศมาเลเซียได้ และยังเป็นเส้นทางหลักของรถไฟรางเดี่ยวที่จะเกิดในอนาคตอีกด้วย