กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,297.30-1,303.61 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.07 น. ของวันที่ 14/06/61)
แนวโน้มวันที่ 15 มิถุนายน 2561
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.75 – 2.00% ตามที่คาดการณ์ จากแรงหนุนของการขยายตัวทางเศรษฐกิจอันแข็งแกร่งของสหรัฐ ผู้กำหนดนโยบายยังคาดการณ์ถึงการขึ้นดอกเบี้ยในระดับเร็วขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ผ่านการส่งสัญญาณว่า เฟดจะอดกลั้นต่อเงินเฟ้อที่สูงกว่าเป้าหมาย เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายคาดถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 1 ครั้งก่อนหน้านี้ ส่วนในปีหน้าเฟดคาดขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งซึ่งไม่แตกต่างจากที่ได้คาดไว้ก่อนหน้านี้ในเดือน มี.ค. แม้ว่าปัจจัยดังกล่าวจะกระตุ้นแรงขายเข้าสู่ตลาดทองคำ แต่ราคาทองคำอ่อนตัวลงไม่มาก ขณะที่ทองคำได้รับแรงหนุนในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐเผชิญความผันผวนหลังแถลงการณ์ของเฟด จนปิดตลาดในวันดังกล่าวใกล้ระดับต่ำสุดและเกิดการเทขายในวงกว้าง โดยหุ้นส่วนใหญ่ของดัชนี S&P ปรับลดลงในช่วงปิดตลาด นอกจากนี้ทองคำได้แรงหนุนเพิ่มจากความกังวลด้านการค้าโลก ซึ่งบั่นทอนทัศนะความต้องการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง หลังมีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐจะพบกับที่ปรึกษาด้านการค้าระดับสูง เพื่อตัดสินใจว่าจะกำหนดภาษีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ต่อสินค้าจีน โดยปธน.ทรัมป์เตรียมเปิดเผยการทบทวนปรับรายการภาษีเบื้องต้นที่เล็งเป้าหมายสินค้าจีนมูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันศุกร์นี้และอาจเริ่มนำมามีผลบังคับใช้ในวันศุกร์นี้เป็นอย่างเร็วที่สุด ทั้งนี้แหล่งข่าวระบุว่า รายการดังกล่าวจะมีจำนวนน้อยกว่าต้นฉบับ ขณะที่สินค้าบางรายการจะถูกตัดออกไปและจะเพิ่มสินค้าอื่นๆเข้ามา โดยเฉพาะในภาคเทคโนโลยี ความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าสหรัฐ-จีนถ่วงดอลลาร์สหรัฐให้อ่อนค่าลงซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำ เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,289 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,289 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ในระยะสั้นราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบหากราคาสามารถการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิค และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,307-1,315 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนหากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,289 (19,550บาท) 1,280 (19,450บาท) 1,271 (19,300บาท)
แนวต้าน 1,307 (19,900บาท) 1,315 (20,000บาท) 1,325 (20,150บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888