กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--เมพขิงขิง
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิด กิจกรรม Kick off โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีและสัมมนาการขับเคลื่อนชุมชนท่องเที่ยว ภายใต้โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ซึ่งจัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน (13-15 มิถุนายน 2561) โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม 1,857 คน ประกอบด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ภาคเอกชน พัฒนาการจังหวัด และพัฒนาการอาเภอ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาล ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579) ให้เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ ซึ่งจะวางแนวทางในการพัฒนา และดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้รัฐบาลใดก็ตาม เพื่อนำประเทศไปสู่ความ "มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ประกอบไปด้วย 6 ด้าน โดยด้านที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม เป็นการสร้างความเสมอภาคลดความเหลื่อมล้ำทุกด้าน เป้าหมาย คือการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในสังคม ดังอยู่บนหลักการและพื้นฐานสำคัญ การสร้างสังคมคุณภาพ สังคมในทุกๆ ด้านไปพร้อมกัน โดยไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง โดยการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมให้คนทุกกลุ่มในสังคม
ในการแก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำของประชาชน รัฐบาลได้มุ่งใช้หลัก "ประชารัฐ" โดยบูรณาการทุกภาคส่วน ทำงานร่วมกันภายใต้โครงการ "ไทยนิยม ยั่งยืน" โดยรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 เพิ่มเติม เพื่อขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว ดังนี้
1.จัดสรรผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชาตามแนวทางประชารัฐ งบประมาณ 20,000,000,000 บาท (สองหมื่นล้านบาท)
2.จัดสรรผ่านกระทรวงการคลัง โครงการผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ งบประมาณ 21,078,000,000 บาท (สองหมื่นเจ็ดสิบแปดล้านบาท)
3.จัดสรรผ่านสานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย โครงการค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาระดับพื นที่ งบประมาณ 20,000,000,000 บาท (สองหมื่นล้านบาท)
4.จัดสรรผ่านกรมการพัฒนาชุมชน โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 9,328,000,000 บาท (เก้าพันสามร้อยยี่สิบแปดล้านบาท)
โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จึงเป็นโครงการที่เป็นรูปธรรม ในการขับเคลื่อนภารกิจโครงการไทยนิยมยั่งยืนดังกล่าว โดยเป้าหมาย เป็นการสร้างชุมชนเข้มแข็ง ยกระดับการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างอาชีพและรายได้แก่ชุมชน การสร้างตลาดใหม่ การเชื่อมโยงOTOP กับการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก พัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และคนมีความสุข ตลอดจนสร้างชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี เน้นชุมชน/หมู่บ้านที่เป็น 'แอ่งเล็ก' ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชุมชนระดับผลิตภัณฑ์โอทอปในกลุ่ม D การดำเนินงานตามแผนจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้วยการสร้างอาชีพ และสร้างรายได้แบบกระจายตัวในแต่ละชุมชน รวมทั้งยกระดับผลิตภัณฑ์โอทอปในกลุ่ม D จานวน 58,330 ผลิตภัณฑ์ ให้มีอัตลักษณ์ของท้องถิ่น มีคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ซึ่งแต่ละปีมีจานวนถึง 95 ล้านคน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าว
ทั้งนี้ ได้กาหนดผลสัมฤทธิ์ของโครงการ ในเชิงปริมาณ คือสร้างผู้ประกอบการใหม่เพิ่มในชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี 1.64 ล้านคน ผลิตภัณฑ์ OTOP กลุ่ม D ได้รับ การพัฒนาไม่น้อยกว่า 58,330 ผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งหวังให้มีรายได้เฉพาะการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 10 ชุมชน/หมู่บ้าน ได้รับการพัฒนาด้านการจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนจานวน 3,273 ชุมชน/หมู่บ้าน กระจายใน 76 จังหวัด และผ่านการประเมินระดับมั่งมี ศรีสุข ตามเกณฑ์และตัวชี้ วัดหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงของกระทรวงมหาดไทย
ส่วนด้านเชิงคุณภาพ โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จะช่วยลดความเหลื่อมล้าทางสังคม โดยมีการกระจายรายได้และหมุนเวียนในชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง ทำให้คนในเมืองกลับชุมชนชนบท เพราะมีงานทำ ครอบครัวอบอุ่น ลูกหลานกลับบ้าน ประกอบอาชีพ มีรายได้ อยู่ในชุมชนอย่างมีความสุข
"การดำเนินงานตามโครงการนี้ เน้นสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชนในทุกกระบวนการ ช่วยให้เกิดการการพัฒนาคน ชุมชนเข้มแข็ง เป็นการสร้างเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและมีความสุขในบ้านของตนเอง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวในที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : สถาบันการพัฒนาชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โทร.021416248