กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
การประสานพลังของชุมชนต่างๆ พร้อมสร้างสีสันนับถอยหลังสู่ เอเอฟซี เอเชียน คัพ ณ ยูเออี 2019
นักเตะในตำนานแห่งวงการฟุตบอลของเอเชียร่วมบ่มเพาะนักฟุตบอลเยาวชนในยูเออีกับโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต ผ่านคลินิคฟุตบอลเสริมทักษะพิเศษที่จัดขึ้นที่ดูไบ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองการจับฉลากทีมครั้งสุดท้ายและเปิดฉากเตรียมความพร้อมในเฟสใหม่ของเอเอฟซี เอเชียนคัพ ณ ยูเออี 2019 (AFC Asian Cup UAE 2019)
เยาวชนมากมายจากชุมชนต่างๆ ในยูเออีผสานพลังเป็นหนึ่งเดียวผ่านความคลั่งใคล้ในกีฬาฟุตบอล ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเยาวชนชาวไทยน่าจะตื่นตาตื่นใจกับที่สุดของความเซอร์ไพรส์ เมื่อพวกเขาได้พบปะพูดคุยกับอดีตดาวรุ่งทีมชาติอย่าง พิพัฒน์ ต้นกันยา ที่เข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในงานที่จัดโดยคณะกรรมการการจัดการแข่งขันท้องถิ่นของทัวร์นาเมนท์ (Local Organising Committee - LOC)
งานดังกล่าวได้แสดงออกถึงสปิริตของเกมการแข่งขันภายใต้ธีม "Bringing Asia Together" (ผสานความเป็นหนึ่งแห่งเอเชีย) ภายในงาน พิพัฒน์ ต้นกันยาได้อวดทักษะของเขาให้แก่แฟนคลับรุ่นใหม่จำนวนมาก
พิพัฒน์ ต้นกันยา กล่าวว่า "นับเป็นครั้งแรกที่เยาวชนไทยสามารถสานฝันเพื่อผันตัวเองเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพได้ ช่างเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นมากๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม เราจะต้องมาเล่นในเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนเพื่อจะได้เดินตามรอยเท้าของพวกเรา"
นอกจากนี้ เยาวชนยังมีโอกาสมากกว่าเพียงขอลายเซ็น โดยเหล่านักเตะในตำนานส่งเสริมให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม ครอส บาร์ ชาเลนจ์ เอเอฟซี เอเชียนคัพ ยูเออี 2019 (AFC Asian Cup UAE 2019 Crossbar Challenge) และการโชว์ทักษะต่างๆ ก่อนโพสท่าถ่ายรูปใต้ตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) ดูไบ
ระหว่างกิจกรรมครอส บาร์ ชาเลนจ์ พิพัฒน์ ต้นกันยา กล่าวเพิ่มเติมว่า "เยาวชนในวันนี้มีความสามารถมากจริงๆ ผมดีใจที่ได้เห็นเยาวชนไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นตัวแทนประเทศของเราในเวทีระดับภูมิภาค พวกเขาได้โชว์เทคนิคที่ยอดเยี่ยมและเห็นชัดมากว่าพวกเขามีความสุขกับกีฬานี้จริงๆ ผมคิดว่า ในประเทศเราน่าจะมีกิจกรรมลักษณะนี้ให้มากขึ้น เพื่อส่งเสริมกีฬานี้ต่อไปในอนาคต"
His Excellency, Aref Hamed Al Awani, ผู้อำนวยการของคณะกรรมการการจัดการแข่งขันท้องถิ่นของทัวร์นาเมนท์ กล่าวว่า "ความฝันของเยาวชนกำลังจะเป็นจริง ในขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่ก็ได้รับแรงบันดาลใจที่เต็มเปี่ยม ทั้งหมดนี้คือพันธกิจของเราซึ่งเราหวังว่าจะส่งผลไปไกลกว่าวงการฟุตบอลนี้ เราอยากจะสร้างความตื่นเต้นและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในยูเออี พร้อมสร้างความเป็นหนึ่งเดียวผ่านเกมที่สวยงามนี้"
"เราโชคดีมากที่ได้อาศัยอยู่ในประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างยูเออี แต่ทัวร์นาเมนท์นี้สร้างพลังอันยิ่งใหญ่ในการเชื่อมต่อเราทุกคนเข้าด้วยกัน เพียงคุณมองไปที่รอยยิ้มของพวกเขาก็จะรับรู้ได้ถึงพลังที่เกิดขึ้นจากการนำผู้คนที่หลากหลายมาทำงานร่วมกันผ่านกีฬาฟุตบอล ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้ทัวร์นาเมนท์นี้มีความพิเศษอย่างยิ่ง สำหรับเยาวชนกลุ่มนี้ พวกเขากำลังเริ่มนับถอยหลังสู่วันที่ 5 มกราคม 2562 และพวกเราหวังว่าความตื่นเต้นนี้จะกระจายไปทั่วทั้งประเทศ"
รูปแบบของทัวร์นาเมนท์นี้มีการขยายรูปแบบในปี 2562 ที่ จะรองรับทีมชาติที่ดีที่สุดทั้ง 24 ทีมจากภูมิภาคเอเชียผ่าน เอเอฟซี เอเชียนคัพ ณ ยูเออี ในปีหน้า ซึ่งนับเป็น เอเอฟซี เอเชียนคัพ ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดมาในยูเออี โดยจะมีการแข่งขันทั้งสิ้น 51 แมทช์ระหว่างวันที่ 5 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2562 ใน 8 สเตเดียม ใน 3 เมือง ทั่ว 3 เอมิเรทส์
ประเทศไทยได้รับการจับฉลากในกรุ๊ป เอ ร่วมกับอินเดีย บาห์เรน และเจ้าภาพยูเออี หลังจากทีมชาติไทยพลาดการเข้าร่วมในฟุตบอลโลกปีนี้ ทีมชาติไทยจึงมุ่งมั่นสู่เอเอฟซี เอเชียนคัพอย่างเต็มที่ในเดือนมกราคม เพราะเป็นอีกหนึ่งโอกาสดีๆ ในการแข่งขันครั้งสำคัญอีกหนึ่งรายการ โดยทั้ง 3ทีมในกรุ๊ป เอ มีลำดับฟีฟ่าสู่งกว่าทีมชาติไทย อย่างไรก็ตาม มิโลวาน ราเยวัช ผู้จัดการทีมชาติ รู้สึกพอใจและพร้อมที่จะสู้ศึกกับทุกทีม
สำหรับข่าวสาร อัพเดท และข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอเอฟซี เอเชียนคัพ ณ ยูเออี 2019 สามารถติดตามได้ที่ www.the-afc.com
เกี่ยวกับเอเอฟซี เอเชียนคัพ
เอเอฟซี เอเชียนคัพ เป็นการแข่งขันเรือธงระดับทีมชาติของเอเอฟซี โดยมีการจัดขึ้นทุกๆ สี่ปี ซึ่งในปี 2015 ที่จัดขึ้นที่ออสเตรเลียนับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ และได้ทำลายสถิติยอดผู้ชมโทรทัศน์ การเข้าร่วมงาน และสถิติบนโซเชียลมีเดีย
การแข่งขันครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 มกราคม ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2562 โดยเอเอฟซี เอเชียนคัพ ยูเออี 2019 สัญญาว่านำการแข่งขันนี้ไปสู่จุดหมายใหม่ๆ ด้วยการขยายจาก 16 ทีมไปสู่ 24 ทีม
การขยายตัวในครั้งนี้ทำให้การแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันที่ครอบคลุมทั่วทวีปเอเชียอย่างแท้จริง และเมื่อมีประเทศที่เข้าร่วมมากขึ้นและมีแฟนติดตามมากขึ้น ก็ย่อมทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเอเชีย