กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--อินโดรามา เวนเจอร์ส
รีสตาร์ทโรงงานเพื่อรองรับความต้องการบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainable packaging) ในประเทศอียิปต์และในภูมิภาค
EIPET จะช่วยสร้างดุลการค้าให้แก่อียิปต์ คิดเป็นมูลค่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐจากการลดการนำเข้าเม็ดพลาสติกและเริ่มต้นการส่งออกเม็ดพลาสติกและบรรจุภัณฑ์
มีการส่งมอบวัตถุดิบ PTA จากโรงงาน Indorama Ventures Portugal PTA ในประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นการขนส่งในระยะสั้น
มุ่งเน้นการสร้างความสมดุลของความต้องการบรรจุภัณฑ์ PET ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ด้วยการผลิตที่มีความน่าเชื่อถือ
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ ไอวีแอล บริษัทเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลก ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้ลงนามในกิจการร่วมทุนกับบริษัท Dhunseri Petrochem Ltd. (Dhunseri) เพื่อเข้าซื้อกิจการ บริษัท Egyptian Indian Polyester Company S.A.E. (EIPET) ซึ่งเป็นโรงงานผลิต PET(1) ตั้งอยู่ในเขตการค้าเสรี Ain Sokhna ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอียิปต์ มีกำลังการผลิต 540,000 ตันต่อปี การเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะมีผลโดยทันที โดยเป็นการกลับมาเริ่มการผลิตของโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ และใช้ PTA ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักจากโรงงานผลิต PTA ของไอวีแอลในประเทศโปรตุเกส ซึ่งคาดว่าจะเริ่มการผลิต PTA ได้ในต้นเดือนกรกฎาคม 2561 นี้
การร่วมทุนระหว่างบริษัท Dhunseri และไอวีแอลนี้ ช่วยให้สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์ PET ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสนับสนุนการพัฒนาของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและเพิ่มความต้องการบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะใช้ประโยชน์จากขีดความสามารถระดับโลกและการเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานของอินโดรามา เวนเจอร์ส เพื่อเพิ่มศักยภาพในการตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้านบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนในประเทศอียิปต์และในภูมิภาค นอกจากนี้โครงการนี้ยังเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) ทั้งนี้ไอวีแอลเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเพียงไม่กี่รายใน EMEA ที่มีการบูรณาการระหว่าง PTA และ PET ครอบคลุมประเทศลิทัวเนีย ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือและไนจีเรียในแอฟริกาตะวันตก ไอวีแอลเป็นผู้ผลิต PET ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้รายใหญ่ที่สุดในประเทศตุรกี และยังเป็นผู้ผลิต PTA และ PET ในเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และในคาบสมุทรไอบีเรีย
ไอวีแอลมุ่งเน้นการสร้างความสมดุลของความต้องการบรรจุภัณฑ์ PET ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ในตลาด ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเผชิญกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจ นำไปสู่ปริมาณสินค้าที่มีอยู่จำกัดและการหยุดชะงักที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเมื่อไม่นานมานี้ โรงงานในอียิปต์แห่งนี้จะช่วยให้สถานการณ์ปริมาณสินค้าที่มีอยู่จำกัดดังกล่าวคลี่คลาย ทั้งในแอฟริกาเหนือและในกลุ่มประเทศสมาชิกตลาดร่วมแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาใต้ (COMESA) รวมทั้งตลาดอื่นๆ ที่อียิปต์มีการลงนามข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA)
โรงงาน EIPET ตั้งอยู่ในเขตการค้าเสรี Ain Sokhna ประเทศอียิปต์ จึงเอื้อประโยชน์ด้านการขนส่งวัตถุดิบและส่งมอบผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าในตลาดหลักทั้งภายในและต่างประเทศ โรงงานแห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา จึงอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะตอบสนองความต้องการด้านบรรจุภัณฑ์ของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ทั้งในภูมิภาคและตลาดโดยรอบ ทั้งนี้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาค จะช่วยเพิ่มการเติบโตของอุปสงค์ ซึ่งในปัจจุบันมีการเติบโตราวร้อยละ 7 ต่อปี นอกจากนี้พันธมิตรทั้งสองฝ่ายยังมั่นใจในการปฏิรูปประเทศอียิปต์ของประธานาธิบดีอัลซีซี และการร่วมทุนครั้งนี้จะเป็นการเดินหน้าเพื่อบรรลุพันธสัญญาต่อทางการอียิปต์ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา
Dhuseri และอินโดรามา เวนเจอร์ส ได้พัฒนาสายสัมพันธ์ทางธุรกิจและสนับสนุนการขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศอินเดียตั้งแต่ปี 2559 และคาดว่าจะบรรลุความสำเร็จอย่างต่อเนื่องจากการลงทุนในประเทศอียิปต์ในครั้งนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส ประสบความสำเร็จในการพลิกฟื้นธุรกิจ PTA ในประเทศโปรตุเกสภายหลังเจ้าของเดิมประสบปัญหาทางการเงิน และเมื่อเร็วๆนี้บริษัทฯ ยังได้พลิกฟื้นโรงงานผลิต PET ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิลหลังจากที่เจ้าของเดิมประสบปัญหาสภาพคล่อง การพลิกฟื้นธุรกิจทั้งสองแห่งนี้ จะช่วยสนับสนุนความน่าเชื่อถือของการจัดหาผลิตภัณฑ์ของไอวีแอลให้แก่ลูกค้า และช่วยสร้างการเติบโตของตลาดบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืนทั่วโลก
การเพิ่มบริษัท EIPET เข้ามาในกลุ่ม ทำให้อินโดรามา เวนเจอร์ส มีกำลังการผลิต PET เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากจำนวนการผลิตทั่วโลกในปัจจุบัน โรงงานนี้ใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับโรงงาน IVL Dhunseri ในประเทศอินเดีย ทำให้บริษัทฯ สามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินงานและความสำเร็จจากการบูรณาการ โรงงานที่เพิ่งสร้างเสร็จแห่งนี้ จะเป็นหนึ่งในโรงงานที่ดีที่สุดในกลุ่มอินโดรามา เวนเจอร์ส ทั้งในด้านขนาดและความสามารถในการแข่งขัน ช่วยให้บริษัทฯ รักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ตลอดจนตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกภูมิภาคอย่างทันต่อเวลาและน่าเชื่อถือ
อินโดรามา เวนเจอร์ส คาดว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากการส่งมอบวัตถุดิบ PTA จากโรงงานภายในกลุ่มในเอเชียและคาบสมุทรไอบีเรีย รวมทั้ง IPA จากประเทศสเปน ทำให้การใช้สินทรัพย์ของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสร้างความมั่นใจในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การร่วมทุนในครั้งนี้ยังถือเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตใหม่ๆ ด้วยการเข้าถึงตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ในทันที รวมทั้งตลาดปลอดภาษีในแอฟริกาเหนือและแอฟริกาตะวันออก ผ่านข้อตกลงทางการค้าที่เอื้อประโยชน์ในภูมิภาค ปริมาณการผลิตที่เพิ่มเติมยังสามารถส่งออกไปยังตลาดหลักในยุโรปที่มีสิทธิพิเศษด้านภาษีและกำลังเผชิญสถานการณ์อุปทานที่มีอย่างจำกัด
นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวถึงการร่วมทุนในครั้งนี้ว่า "ผมรู้สึกยินดีที่ได้ขยายความร่วมมือในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจกับ Dhunseri ผ่านการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ EIPET มีความเหมาะสมทางกลยุทธ์ธุรกิจ PET ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่และมีความยั่งยืน โดยเรามุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งและสร้างขนาดในตลาดหลัก และยังนับเป็นก้าวแรกของเราในการเข้าไปทำธุรกิจในอียิปต์ โดยจะช่วยเสริมการดำเนินงานของเราที่มีอยู่ในปัจจุบันในยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา นอกจากนี้ EIPET จะช่วยสร้างโอกาสในการบูรณาการวัตถุดิบเพิ่มเติม ช่วยให้เราสามารถรองรับตลาดในแอฟริกาและพื้นที่ใกล้เคียงที่กำลังเติบโต"
นาย C.K. Dhanuka ประธานบริษัท Dhunseri กล่าว "การร่วมทุนของเราในอินเดียไปเป็นอย่างราบรื่น และสร้างประโยชน์ให้แก่เราทั้งสองฝ่าย รวมทั้งกับลูกค้า ภายหลังความสำเร็จจากการร่วมทุนในอินเดีย เรามีความเชื่อมั่นที่จะเข้าร่วมโครงการที่มีลักษณะเดียวกันในอียิปต์ ซึ่งเป็นการร่วมทุนในสัดส่วนที่เท่ากันเช่นเคย"
(1)พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต
(2)กรดเทเรฟทาลิกบริสุทธิ์
(3)กรดไอโซพาทาลิก
เกี่ยวกับ อินโดรามา เวนเจอร์ส
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Bloomberg ticker IVL.TB) เป็นหนึ่งในบริษัทปิโตรเคมีชั้นนำระดับโลก มีโรงงานผลิตครอบคลุมภูมิภาคหลักทั่วโลก ได้แก่ แอฟริกา เอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์ Necessities และผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (HVA) ทั้งในกลุ่มพอลิเมอร์ เส้นใยและบรรจุภัณฑ์ รวมถึงมีการบูรณาการไปยังวัตถุดิบหลักอย่างเอทิลีนออกไซต์/ไกลคอล และ PTA ผลิตภัณฑ์ของไอวีแอลรองรับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลส่วนบุคคล และอุตสาหกรรมยานยนต์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยางในรถยนต์และผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัย ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานทั่วโลกราว 15,000 คนและมีรายได้จากการขายรวม 8.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2560 บริษัทฯ เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ (DJSI)
ไอวีแอลมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทยและมีโรงงานทั่วโลก อันได้แก่
ยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา: เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี สาธารณรัฐไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ อิตาลี เดนมาร์ก ลิทัวเนีย โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ลักเซมเบิร์ก สเปน ตุรกี ไนจีเรีย กานา โปรตุเกส
อเมริกาเหนือ: สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก แคนาดา
เอเชีย: ไทย อินโดนีเซีย จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ เมียนมาร์
เกี่ยวกับบริษัท Dhunseri
กลุ่มบริษัท Dhunseri กัลกัตตา เริ่มดำเนินธุรกิจชา ซึ่งเป็นธุรกิจที่เก่าแก่ที่สุดของกลุ่ม ในปี พ.ศ. 2555 นอกเหนือจากการเข้าซื้อธุรกิจไร่ชา 2 แห่งในมาลาวี บริษัทฯ ได้เข้าสู่ธุรกิจการเกษตรเพาะปลูกต้นมะคาเดเมีย ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจชของบริษัทชาสัญชาติอินเดียที่มีการดำเนินงานกว่า 50 ปี สู่ธุรกิจการเกษตรเพาะปลูกในต่างประเทศ กลุ่มบริษัทฯ เข้าสู่ธุรกิจปิโตรเคมี โดยบริษัท Dhunseri Petrochem จำกัด และบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ร่วมทุนกิจการบริษัท IVL Dhunseri Petrochem Industries Pvt. Ltd ในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งบริษัทดังกล่าวประกอบด้วยโรงงานผลิตเม็ดพลาสติก PET ที่เมือง Haldia และเมือง Karnal ในรัฐหรยาณา โดยกำลังการผลิตรวมจากโรงงานทั้ง 2 แห่งอยู่ที่ประมาณ 700,000 ตันต่อปี นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาและจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานในเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศ การลงทุนในภาคอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และธุรกิจการจัดการทางการเงิน