กรุงเทพฯ--3 ธ.ค.--เกรียวกราว พลัส
นับถอยหลังก็เหลือเวลาเพียงไม่กี่วันจะถึงวันเลือกตั้ง ค้นหาผู้นำเพื่อเข้ามาบริหารประเทศกันแล้ว หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างตื่นตัวร่วมกันรณรงค์ กระตุ้น ให้คนเห็นความสำคัญการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้นักการเมืองที่ดีมีประสิทธิภาพเข้ามาบริหารประเทศ โดยผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ กันอย่างคึกคัก ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) หนึ่งในองค์กรที่ให้ความสำคัญและตระหนักในเรื่องนี้ ได้จัดเวทีเสวนาหัวข้อ “พรรคจะเข้ามาทำงานการเมืองด้วยคุณธรรมได้อย่างไร” โดยเชิญเหล่าบรรดาแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ เข้ามาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีทั้งผู้ทรงวุฒิทางด้านการเมือง นักธุรกิจ นักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ตลอดจนประชาชนทั่วไป ให้ความสนใจเข้าร่วมกิจกรรมกันอย่างคับคั่ง
หลังเวทีเสวนา เราลองมาฟังเสียงสะท้องจากเหล่านิสิตนักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เกี่ยวกับคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมืองว่าเขามีความคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง เริ่มกันที่ ทรายแก้ว เวียงสงค์ (ส้ม) นิสิตปี 3 คณะรัฐศาสตร์ สาขาการปกครอง จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในฐานะเยาวชนคนหนึ่งที่สนใจ เรื่องการเมืองตั้งแต่สมัยเด็กๆ แต่ก็รู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลที่ผ่านๆ มา คิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลชุดก่อนๆ เป็นผลพวงมากจากหลายปัจจัย แต่ที่สำคัญอย่างยิ่งคือปัญหาการขาดคุณธรรมจริยธรรมของนักการเมืองที่เห็นแก่ตัว พวกพ้อง ทำให้เกิดการคอร์รัปชั่น โกงกินขึ้น จนสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติ สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นบทเรียนที่ดีให้กับนักการเมืองที่จะเข้ามาบริหารประเทศ พึงระลึกเสมอว่าประโยชน์ส่วนรวมต้องมาก่อนแล้วประโยชน์ส่วนตัวก็จะตามมาเอง
“อยากฝากถึงนักการเมืองทั้งหลายที่ตั้งใจเข้ามารับใช้ประเทศ ขอให้ทำเพื่อประเทศจริงๆ ต่อให้มีความรู้ มีประสบการณ์มากแค่ไหน ถ้าในใจขาดคุณธรรม จริธรรม อาจจะนำประเทศชาติไป สู่หายนะได้” ส้ม กล่าว
ขณะที่ สาวิตรี อินทโชติ (ลี่) ปี 3 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ สถาบันราชภัฎนครปฐม แสดงความเห็นว่า การเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมาทุกพรรคการเมืองพยายามขายนโยบาย ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ การศึกษา คุณภาพชีวิต แต่ไม่มีพรรคไหนเลยที่ประกาศชัดเน้นย้ำจุดยืนของตัวเองในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม หรือถ้ามีก็เป็นแค่คำสัญญาหลอกลวง เพราะที่ผ่าน ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็สืบเนื่องมาจาก การขาดคุณธรรมจริยธรรมกันทั้งสิ้น ในฐานะเยาวชนอยากขออ้อนวอนนักการเมือง ผู้ใหญ่ทั้งหลายอย่าเข้ามาเพื่อกอบโกยแสวงหาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง เพราะแผ่นดินนี้เป็นสมบัติของคนไทยทุกคน
"เพราะอยากให้คนไทยได้ผู้นำที่เป็นคนเก่ง คนดี มีคุณธรรมจริยธรรม เข้ามาบริหารประเทศ จึงจำเป็นที่จะต้องให้ความรู้กับประชาชนเพื่อไม่ให้ถูกชักจูงให้ขายเสียง ใช้เวลาหลังเลิกเรียนออกไปรณรงค์ตามพื้นที่ใกล้เคียงมหาวิทยาลัยและชุมชนต่างๆ เพื่อพบปะพูดคุยให้ความรู้กับประชาชน เท่าที่สัมผัส มีเสียงตอบรับดีมาก ส่วนใหญ่บอกว่าจะออกไปใช้สิทธิ และไม่ขายเสียงเด็ดขาด เพราะพวกเขามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือ ต้องการผู้นำที่เป็นคนเก่ง ดี และมีคุณธรรม จริยธรรม" ลี่ กล่าว
ส่วนทางด้าน ปิ่นลดา ภูธรภักดี (ปิ่น) ปี 4 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาการสอนวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า ในสภาวะที่ประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม แน่นอนประชาชนก็ต้องการที่พึ่ง ต้องการผู้นำมีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ไม่ใช่ สร้างปัญหา จึงอยากฝากถึงรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศให้ทำงานอย่างโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม เพื่อนำพาประเทศให้ผ่านพ้นวิกฤติ และเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง
และมาปิดท้ายกันที่ ดรัณภพ ขวัญศิริ (โย) ปี 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอุตสาหการการจัดการอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตพระนคร หนุ่มน้อยผู้นี้บอกว่า รู้สึกเบื่อกับการเมืองไทยมากๆ แต่ทุกครั้งที่มีกิจกรรมทางการเมือง ก็ต้องแสดงบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะเยาวชนคนหนึ่งที่พอสามารถทำได้
“มันเกิดคำถามทุกครั้งว่า อะไรคือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้รัฐบาลล้มเหลวในการบริหารประเทศ ถึงขั้นต้องยุบสภาหรือยึดอำนาจ คำตอบที่ได้ก็เหมือนเดิม ผู้บริหารระดับสูง ขาดความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัว ประโยชน์ของพวกพ้องเป็นสำคัญ คุณธรรมจริยธรรมเสื่อมถอย การเลือกตั้งครั้งนี้ก็ได้แต่หวังว่า ประชาชนคงใช้วิจารณณาณในการเลือกคนดี มีคุณธรรม เข้ามาบริหารประเทศ หากเห็นค่าของเงินเพียงไม่กี่ร้อยบาท ประเทศก็จะตกอยู่ในอำนาจคนโกงเหมือนที่ผ่านๆ มา นะ”
โย ฝากข้อคิดว่า สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันน่าเป็นห่วงมาก ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งพรรคการเมืองต่างงัดสารพัดกลยุทธ์มาสู้ศึก ทั้งซื้อสิทธิขายเสียงแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย หวังให้คะแนนเสียงมากที่สุด เพื่อเข้าไปจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรม แล้วประชาชนจะคาดหวังได้อย่างไรว่า คนที่เขาเลือกเข้ามาเป็นผู้บริหารประเทศจะมีคุณธรรมจริยธรรมหลงเหลือติดตัวเข้ามานั่งในสภา
คงต้องฝากความหวังไว้ในมือประชาชนทุกคนแล้วว่าวันที่ 23 ธันวาคมนี้ เข้าคูหา กากบาทลงในชื่อที่คิดว่ามีคุณธรรม จริยธรรม ให้มากที่สุด ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวข้ามสถานการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาได้ !!
หมายเหตุ : ผู้ประสานงาน เบญจรัตน์ สินสงวน (จอย) โทร.089-448-9582 หรือ 02-882-5448