กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและลุ่มรับน้ำ ที่ต้องการน้ำ เนื่องจากฝนตามฤดูกาลยังตกไม่ทั่วถึงในบางพื้นที่ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและ ความต้องการน้ำของเกษตรกรอย่างใกล้ชิด เพื่อเร่งช่วยเหลือทันทีเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อการปฏิบัติภารกิจ
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและ การบินเกษตร เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 8-14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งและมีฝนตกครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับ ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และจากการบินสำรวจพื้นที่การเกษตรของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรในทุกภูมิภาค ยังคงพบว่ามีบางพื้นที่ที่ฝนตกไม่ทั่งถึง อีกทั้งเกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวง มีการร้องขอฝนหลวงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยจากการสำรวจพบว่า พื้นที่การเกษตรที่ฝนตกไม่ทั่วถึง ได้แก่ ภาคเหนือ บริเวณอำเภอตะพานหิน โพธิ์ประทับช้าง ดงเจริญ จังหวัดพิจิตร ภาคกลาง บริเวณอำเภอแม่เปิน แม่วงก์ หนองบัว ชุมแสง เก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณอำเภอบัวลาย บัวใหญ่ บ้านเหลี่ยม ขามสะแกแสง สีดา คง เมืองยาง ลำทะเมนชัย โนนแดง พิมาย ห้วยแถลง ชุมพวง โนนสูง จักราช เฉลิมพระเกียรติ เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ นาโพธิ์ พุทไธสง แคนดง คูเมือง ลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอหนองสองห้อง พล แวงน้อย จังหวัดขอนแก่น และภาคใต้ บริเวณอำเภอเมือง รัตภูมิ นาหม่อม จะนะ หาดใหญ่ สะเดา นาทวี คลองหอยโข่ง บางกล่ำ จังหวัดสงขลา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่การเกษตรปลูกข้าว ข้าวโพด อ้อย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง ไม้ผล มะพร้าว ผักสวนครัว และยางพารา ที่มีความต้องการน้ำสำหรับการเพาะปลูก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของทุกหน่วย-ปฏิบัติการ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเร่งปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือ
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการปฏิบัติภารกิจของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในช่วงฤดูฝนยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีพื้นที่การเกษตรที่มีความต้องการน้ำและต้องเร่งให้ ความช่วยเหลือ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการปฏิบัติงานทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ โดยจากการปฏิบัติภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา กรมฝนหลวงฯ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 85 วัน 1,311 เที่ยวบิน คิดเป็นร้อยละ 96.80 ซึ่งมีพื้นที่ได้รับประโยชน์คิดเป็น 198.688 ล้านไร่
อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ขอให้เกษตรกรและประชาชนมั่นใจว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรตามการร้องขอให้ทั่วถึงทุกพื้นที่และไม่ให้กระทบต่อพื้นที่การเกษตรที่กำลังเก็บเกี่ยว โดยจะติดตามสถานการณ์และสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดทุกวัน เพื่อเตรียมพร้อมปฏิบัติการทันทีเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย