กรุงเทพฯ--21 ก.พ.--ก.ล.ต.
ตามที่บริษัท ไทยน๊อคซ์ สเตนเลส จำกัด (มหาชน) “ไทยน๊อคซ์” ได้แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าจะเพิ่มทุนอีก 2 พันล้านหุ้น และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ที่จะซื้อหุ้น (วอร์แรนท์) อีก 2 พันล้านหน่วย เพื่อระดมเงินไปลงทุนในโครงการผลิตเหล็กรีดร้อน มูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท พร้อมอนุมัติซื้อที่ดิน 240 ไร่ มูลค่า 349 ล้านบาท จากบริษัท แอ็คมี่ แค็มพ จำกัด ซึ่งถือหุ้น 100% โดยกลุ่มมหากิจศิริ (ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ “ไทยน๊อคซ์”) เพื่อก่อสร้างโรงงานตามโครงการดังกล่าวนั้น
นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวถึงการดำเนินงานในเรื่องนี้ว่า “ขณะนี้ ก.ล.ต. ได้สั่งให้บริษัทและที่ปรึกษาทางการเงินชี้แจงถึงสาเหตุที่ไทยน๊อคซ์ไม่ได้เปิดเผยแผนการลงทุน ในโครงการผลิตเหล็กรีดร้อนในแบบไฟลิ่งและหนังสือชี้ชวน ที่เพิ่งมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2547 ทั้งที่โครงการดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 1 หมื่น 4 พันล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเกือบเท่าตัวของสินทรัพย์ในปัจจุบันของบริษัทที่มีอยู่ประมาณ 1 หมื่น 7 พันล้านบาท”
นายธีระชัย กล่าวต่อไปว่า “โดยทั่วไป โครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนสูงระดับนี้ น่าจะต้องใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจ และมีการวางแผนล่วงหน้านานพอสมควร แต่กรณีของไทยน๊อคซ์นี้เกิดขึ้น หลังจากที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เพียง 2 เดือน ก.ล.ต. จึงต้องให้บริษัทมาชี้แจงถึงเหตุผลและความจำเป็นในเรื่องดังกล่าว”
“ส่วนประเด็นการซื้อที่ดิน ที่มีลักษณะเข้าข่ายการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้โดยตรงให้ติดตามดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป” นายธีระชัย กล่าวสรุป
สำหรับการปกปิดข้อมูลในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้นและหนังสือชี้ชวน เป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 278 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 เท่าของราคาขายของหลักทรัพย์ทั้งหมดที่ผู้นั้นเสนอขาย แต่ไม่น้อยกว่า 5 แสนบาท--จบ--