กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--สำนักวิจัยซูเปอร์โพล
สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล มูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง ประชาชนคิดอย่างไรต่อ ยุทธศาสตร์ชาติ กับ อนาคตประชาชน และอนาคตประเทศไทยที่ต้องการ
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง ประชาชน คิดอย่างไรต่อ ยุทธศาสตร์ชาติ กับ อนาคตของประชาชน และ อนาคตของประเทศไทยที่ต้องการ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,150 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 5 - 15 มิถุนายน พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา พบว่า
อนาคตของประชาชนกับอนาคตของประเทศไทยที่ต้องการมากที่สุด ได้แก่ ร้อยละ 29.0 ระบุว่า ประชาชนคนไทยต้องมีงานทำมั่นคง มีเงินพอค่าครองชีพ ไม่ถูกคนต่างด้าวแย่งอาชีพ รองลงมาคือร้อยละ 22.6 ระบุ บ้านเมืองสงบสุข ไม่วุ่นวาย อันดับสาม ได้แก่ ร้อยละ 17.3 ระบุ ประชาชนมีระเบียบวินัย มีการบังคับใช้กฎหมายจริงจังต่อเนื่อง ควบคุมพฤติกรรมคนได้ อันดับสี่ ได้แก่ ร้อยละ 10.6 ระบุ ประชาชนได้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตประจำวัน อันดับห้า ได้แก่ ร้อยละ 10.3 ประชาชนมีทัศนคติที่ดีต่อกัน และ อันดับหก ได้แก่ ร้อยละ 10.2 ระบุ เป็นพลเมืองที่ดีต่อประเทศชาติ
จากการสัมภาษณ์เจาะลึกกลุ่มคนไทยวัยทำงานถึงเหตุผลว่า ทำไมเรื่อง การมีงานทำมั่นคง จึงขึ้นมาเป็นอันดับแรกแซงหน้าความสงบสุขของบ้านเมือง พบว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบ แต่ปัญหาคนไทยไม่มีงานทำที่มั่นคงกระทบต่อคนไทยจำนวนมาก
คนตอบส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า ทุกวันนี้คนไทยถูกแย่งอาชีพหลายอย่างที่เคยทำอยู่อย่างมั่นคงต่อเนื่องมา บางพื้นที่แรงงานต่างด้าวผันตัวเองมาเป็นเจ้าของค้าขายจำนวนมาก เช่น อาชีพค้าขายอิสระ ขายผักขายปลา ขายผลไม้ในตลาดสด อาชีพทำอาหาร ทำครัว ขายก๋วยเตี๋ยว ขายส้มตำ พนักงานคิดเงินตามร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัยต่างๆ คนไทยถูกผลักออกไปทำอาชีพอิสระไม่มั่นคง หาเช้ากินค่ำ ไม่พอค่าครองชีพ จำนวนมากหันไปขายของออนไลน์ก็ไม่มีหน่วยงานรัฐใดสนับสนุนส่งเสริม ชีวิตเป็นไปตามยถากรรม บางคนจึงไปเล่นพนัน หวังรวยทางลัด ค้ายาเสพติด ก่ออาชญากรรม หลอกลวงต้มตุ๋น ฉ้อโกง ติดคุกมีคดีติดตัว ขาดหน่วยงานรัฐดูแลชีวิตการงานของคนไทยให้มั่นคง จึงทำให้อันดับของความต้องการที่จะเห็นคนไทยมีงานทำมั่นคง มีเงินพอค่าครองชีพ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง
นอกจากนี้ อาจกล่าวได้ว่า แย่แล้ว ที่ผลสำรวจพบว่า คนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.0 เคยได้ยินคำว่า ยุทธศาสตร์ชาติ แต่ เกินครึ่งหรือร้อยละ 54.9 ไม่รู้ว่า ยุทธศาสตร์ชาติคืออะไร และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.2 ระบุ จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ชาติ ด้วยภาษาง่ายๆ ชาวบ้านจำได้ง่าย จะได้ช่วยกันปกป้องผลประโยชน์ชาติร่วมกันได้ดีขึ้น
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนจัดทำยุทธศาสตร์เขียนยุทธศาสตร์ชาติออกมาเยอะเกินไป โดยใช้ภาษาวิชาการห่างไกลตัวประชาชนและขาดกลยุทธ์ในการสื่อสารกับประชาชน ยิ่งไปกว่านั้นคนออกแบบยุทธศาสตร์มุ่งแต่ใช้อำนาจรัฐ (State Power) ทำให้เกิดการเน้นการใช้กองกำลังปฏิบัติการที่ใช้งบประมาณสูง แต่ลงทุนด้านการหาข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำน้อยมากในการออกแบบยุทธศาสตร์ และให้ความสำคัญน้อย เช่นกันกับอำนาจจากภาคประชาชน (Non-State Power) ทำให้ออกแบบยุทธศาสตร์ได้ไม่ดีพอ ขาดพลังจากฐานรากของประชาสังคมสนับสนุน ประเทศไทยจึงอยู่ในวังวนของปัญหาและเสียงเรียกร้องเดิมๆ ต่อไป