กรุงเทพฯ--4 ธ.ค.--สามารถ ไอ-โมบาย
ไอ-โมบาย รุกกลยุทธ์ช่องทางจัดจำหน่ายอันดับ 1 ในประเทศ ตั้งเป้ายอดขายมือถือแบรนด์ “i-mobile” 5 ล้านเครื่องทั่วภูมิภาค พร้อมเปิดตัวโครงการ “i-mobile Stop! Global Warming” รณรงค์ลดภาวะโลกร้อน
บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) เปิดกลยุทธ์รุกตลาดปี 2551 ตั้งเป้าเป็นผู้นำอันดับหนึ่งด้านช่องทางการจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือในประเทศ เตรียมส่งโทรศัพท์มือถือ 20 รุ่น ลงตลาดมั่นใจยอดขายแบรนด์ “i-mobile” ปีหน้าทั้งในและต่างประเทศ ทะลุ 5 ล้านเครื่อง โดยชูจุดเด่นดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ สร้างความแตกต่างด้วยมัลติมีเดียคอนเทนต์ พร้อมเปิดกลยุทธ์รุกการขยายช่องทางจัดจำหน่ายรองรับยอดขายโต เพิ่มสาขาแฟรนไชส์ทั่วประเทศ และปรับร้านรูปแบบใหม่ “i-mobile Experience Center” และศูนย์บริการแฟลกชิปแห่งใหม่ ทุ่มงบการตลาดกว่า 600 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในระดับภูมิภาค พร้อมเปิดตัวโครงการ i-mobile Stop! Global Warming เพื่อรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน ชวนลูกค้า ไอ-โมบาย ร่วมปลูกต้นไม้ 3 ล้านต้นทั่วประเทศ
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไอ-โมบาย ประสบความสำเร็จในการรุกตลาดช่วงปี 2550 ด้วยยอดขายประมาณ 3.2 ล้านเครื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยแบ่งเป็นในประเทศ 2.6 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นสัดส่วน 31 เปอร์เซ็นต์ของตลาดรวม นอกจากนี้ ยังจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือแบรนด์หลักอื่นๆ ได้แก่ โซนี่ อีริคสัน ซัมซุง แอลจี และ โมโตโรล่า รวมกว่า 4 แสนเครื่อง บริษัทฯ สร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ “i-mobile” อย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง (product identity) ในรูปแบบ ODM (Original Design Manufacturer) และเน้นจุดเด่นของการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยพรีโหลดคอนเทนต์ และแอพลิเคชั่นที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ซึ่งส่งผลให้แบรนด์สร้างความแตกต่างในตลาดได้อย่างชัดเจน บริษัทฯ มุ่งที่จะเป็นผู้นำอันดับหนึ่งระดับภูมิภาคในธุรกิจสื่อสารโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโมบายที่ครบครัน พร้อมคอนเทนต์และบริการที่มีคุณภาพผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่กว้างขวางที่สุด”
“สำหรับปี 2551 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายโทรศัพท์มือถือ “i-mobile” กว่า 5 ล้านเครื่อง ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายอันดับหนึ่งในประเทศด้วยยอดขายรวมกว่า 3.6 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์จากตลาดรวมกว่า 9 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นแบรนด์ i-mobile จำนวน 3 ล้านเครื่อง และจัดหน่าย แบรนด์อื่นๆ โดย สามารถ โมบาย เซอร์วิสเซส อีกกว่า 6 แสนเครื่อง โดยเน้นกลยุทธ์หลักด้านการขยาย ช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อรองรับการเติบโต โดยเฉพาะธุรกิจแฟรนไชส์ ที่ ไอ-โมบาย จะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนมกราคม รวมทั้งเพิ่มจำนวน i-mobile Shop และ คิออส ทั่วประเทศ บริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มช่องทางการขายเป็น 400 สาขา ในประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 300 แห่ง อีกทั้งยังสร้างแบรนด์ และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศอย่างต่อเนื่องกว่า 232 สาขา อาทิ ประเทศมาเลเซียที่ร่วมมือกับ เซลคอม (Celcom) บริษัทในเครือของ เทเลคอม มาเลเซีย เพื่อเปิด “บลูคิวบ์” (Blue Cube) โดยตั้งเป้าจำนวน 180 สาขา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังวางแผนที่จะเปิดตลาดใหม่ในประเทศแถบเอเชียกลาง และตะวันออกกลาง ภายในปี 2551 จากปัจจุบันที่ ไอ-โมบาย ทำตลาดใน 8 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา มาเลเซีย เวียดนาม บังกลาเทศ อินโดนีเซีย และอินเดีย ซึ่งจะส่งผลให้ ไอ-โมบาย มีช่องทางจัดจำหน่ายที่มีสาขามากที่สุดในภูมิภาค” นายวัฒน์ชัย กล่าว
นอกจากการขยายช่องทางจัดจำหน่ายภายในประเทศแล้ว ไอ-โมบาย ยังเตรียมเปิดตัว i-mobile shop สาขาเซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า ในรูปแบบใหม่ตามแนวคิด “i-mobile Experience Center” เพื่อสร้างประสบการณ์มัลติมีเดียให้แก่ลูกค้าด้วยบริการพิเศษ ทั้งการทดสอบฟังก์ชั่นโทรศัพท์มือถือที่ล้ำสมัย การดาวน์โหลดเพลง การถ่ายรูปและพรินท์ภาพ รวมทั้งเปิดตัวศูนย์บริการ i-mobile Service Center ในลักษณะ Flagship Store ที่เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เพื่อการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร และมีประสิทธิภาพรวดเร็ว พร้อมบริการหลังการขายเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของสินค้า อาทิ การรับประกันเปลี่ยนเครื่องใน 10 วัน และบริการซ่อมเสร็จภายใน 1 วัน
นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไอ-โมบาย รุกกลยุทธ์ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องทั้งด้านดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ “i-mobile” โดยร่วมมือกับ Cerebrum Design พร้อมนำเสนอโทรศัพท์มือถือที่มีฟังก์ชั่นล้ำสมัย เช่น i-mobile 903 ซึ่งมีฟังก์ชั่นวิทยุสื่อสารระยะสั้น i-mobile 516 ที่มีทอล์กกิ้ง ดิคชันนารี ทำให้ ไอ-โมบาย สามารถครองตลาดในกลุ่ม low-mid end ที่ราคาต่ำกว่า 8,000 บาท และคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของตลาด โดยเฉพาะรุ่น i-mobile 510 ที่ทำตลาดตั้งแต่ปี 2549 และทำยอดขายสูงถึง 1,500,000 เครื่องทั้งในและต่างประเทศ และ i-mobile 200 ที่เปิดตัวเมื่อเดือนสิงหาคม 2550 และขายไปแล้วมากกว่า 5 แสนเครื่อง สำหรับปี 2551 ไอ-โมบาย วางแผนรุกตลาดด้วยโทรศัพท์มือถือกว่า 20 รุ่น ในทั้ง 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีฟังก์ชั่นโดดเด่น เช่น i-mobile 518 พูดพร้อมเพลงแบคกราวน์ i-mobile 519 กับวิดีโอแชทบนมือถือ i-mobile 613 ที่มี G-Sensor ควบคุมการสั่งงานได้ด้วยการสั่น และ i-mobile 520 ที่ให้เสียงคุณภาพเยี่ยมจาก Yamaha Amplifier”
ไอ-โมบาย เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ 5 รุ่น ได้แก่ i-mobile 518, i-mobile 519, i-mobile 520, i-mobile 613, และ i-mobile 904 ซึ่งมีฟังก์ชั่นที่แตกต่าง และมาพร้อมคอนเทนต์พิเศษ “i-mobile Multimedia Package”
i-mobile 518 Fun with Background sound “พูดพร้อมเพลงแบคกราวน์” โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น “Background sound” พูดพร้อมเพลงแบคกราวน์ และเสียงแปลกๆ อาทิ เสียงฝนตกหนัก เสียงในซุปเปอร์มาร์เก็ต พร้อมกล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล เครื่องเล่น MP3 ลำโพงเสียงเซอร์ราวน์ บันทึก/เล่นวิดีโอ วิทยุ FM ที่มีเสาอากาศในตัว โหมด TV-OUT บลูทูธ และ บริการ “i-Link” พร้อมเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งานด้วย “Private menu” รวมทั้งคอนเทนต์ และเพลงฮิตจาก RS และ GMM Grammy โดย i-mobile 518 มีวางจำหน่ายแล้วราคา 5,990 บาท
i-mobile 519 Spice Up Your Life with Video Chat “สนุกแน่... แค่มีวิดีโอแชทบนมือถือ” โทรศัพท์มือถือดีไซน์ ล้ำสมัยขนาดกะทัดรัด โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่น “Video Chat” เล่นแชทออนไลน์ผ่านมือถือแบบเห็นหน้า พร้อมกล้องดิจิตอล (หน้า-หลัง) เครื่องเล่น MP3 บันทึก/เล่นวิดีโอ วิทยุ FM และบลูทูธ ฟังก์ชั่น “Background sound” และบริการ “i-Link” พร้อมคอนเทนต์และเพลงฮิตจาก RS และ GMM Grammy โดย i-mobile 519 มีวางจำหน่ายแล้วราคา 4,990 บาท
i-mobile 520 โทรศัพท์มือถือที่มาพร้อม Yamaha Audio Amplifier Performance เพื่อระบบเสียงคุณภาพ พร้อมฟังก์ชั่น ทอล์กกิ้ง ดิคชันนารี อังกฤษ-ไทย-จีน และ “Private menu” เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน
i-mobile 613 โทรศัพท์มือถือที่มีกล้องดิจิตอล 3 ล้านพิกเซล และ “G-Sensor” สำหรับควบคุมการทำงานด้วยการสั่นหน้าจอ ใหญ่ขนาด 2.2 นิ้ว
i-mobile 904 Your Absolute Solution “สมาร์ท... สนุกได้ทุกแนว” สมาร์ทโฟนเครื่องแรกจาก “i-mobile” ระบบปฏิบัติการลีนุกซ์ (Linux) ด้วยหน้าจอสัมผัส พร้อมกล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส เครื่องเล่นเพลง MP3 บันทึก/เล่นวิดีโอ บลูทูธ ดิกชันนารี และ IM Chat-แชทสดออนไลน์ผ่านมือถือ “i-Biz Application” อัพเดตข้อมูลและข่าวสารทางธุรกิจ และเชื่อมโยงสู่โลกมัลติมีเดียคอนเทนต์ผ่าน“i-Link” i-mobile 904 มีวางจำหน่ายแล้วราคา 6,900 บาท
“นอกจากโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่แล้ว ในช่วงปีหน้า ไอ-โมบาย ยังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 3 — 4 รุ่น ในกลุ่มพรีเมี่ยมโฟน และ สมาร์ทโฟน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และยังขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม อีกทั้ง ไอ-โมบาย ยังวางแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องเล่นมัลติมีเดีย อาทิ Portable Media Player เครื่องเล่น MP3 และ MP4 ซึ่งจะทำให้ ไอ-โมบาย นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายโดยจัดจำหน่ายผ่านช่องทางที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าให้กับผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มด้วยมัลติมีเดียคอนเทนต์ทั้งในรูปแบบของเสียง (Voice) รูปแบบข้อความหรือภาพ (Non Voice) และโมบายแอพลิเคชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์มัลติมีเดีย โดยบริษัทฯ พร้อมที่จะขยายธุรกิจคอนเทนต์ไปสู่ตลาดต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม เพื่อสร้างความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “i-mobile” โดยคัดเลือกคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ในแต่ละประเทศ ไอ-โมบาย ตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำด้านการพัฒนาคอนเทนต์ และแอพลิเคชั่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นายวัฒน์ชัย กล่าวเสริม
“สำหรับกลยุทธ์และกิจกรรมทางการตลาดในปี 2551 นั้น ไอ-โมบาย ได้วางแผนที่จะใช้งบประมาณกว่า 600 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ “i-mobile” ที่แข็งแกร่งทั้งในและต่างประเทศ โดยผ่านการประชาสัมพันธ์ และสื่อโฆษณาที่หลากหลาย รวมทั้งการจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้า และกิจกรรมพิเศษที่เหมาะสมกับลูกค้าในแต่ละกลุ่ม เพื่อตอกย้ำความแตกต่างของ ไอ-โมบาย ที่นำเสนอความคุ้มค่า (Value for money) ให้แก่ลูกค้า ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย คอนเทนต์และแอพลิเคชั่นที่ตอบสนองไลฟสไตล์ และการให้บริการหลักการขายที่มีคุณภาพ รวมทั้งสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่มีให้ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีมากที่สุด” นายธนานันท์กล่าว
ไอ-โมบาย เปิดตัวโครงการ “i-mobile Stop Global Warming” เพื่อเป็นส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อน และปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศ และนับเป็นโครงการเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา โดยร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร และกรมป่าไม้ใน โครงการปลูกป่า 3 ล้านต้นทั่วประเทศ ในระยะเวลา 3 ปี ฉลองยอดขายโทรศัพท์มือถือ i-mobile จำนวน 3 ล้านเครื่อง เริ่มด้วยโครงการปลูกต้นไม้ประจำตระกูลในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย เชียงราย พิษณุโลก ตาก นครราชสีมา อุดรธานี ระยอง ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา และตรัง เตรียมจัดกิจกรรมโปรโมตโครงการ ที่ร้าน i-mobile shop ทั่วประเทศ เพื่อให้ลูกค้า ไอ-โมบาย ทุกคนมีส่วนร่วม พร้อมทำพรีเมี่ยมพิเศษถุงผ้า และเสื้อยืด i-mobile Stop! Global Warming สนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทผู้ผลิต โทรศัพท์มือถือ i-mobile และอุปกรณ์อะไหล่ต่างๆ ได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิต ISO 14001 Environmental Management System ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม งดใช้ชิ้นส่วนที่มีสารตะกั่ว (Non Pb) และงดการใช้สารอันตราย อาทิ ปรอท และแคดเมียม ในผลิตภัณฑ์ตามข้อกำหนด RoHs (Restriction of the use of certain hazardous Substance) รวมทั้งการรีไซเคิลแบตเตอรี่ และกล่องผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ไอ-โมบาย ยังร่วมกับ GMM Grammy จัดทำอัลบั้มพิเศษรณรงค์การหยุดยั้งสภาวะโลกร้อน รวมศิลปิน ได้แก่ โก้ Mr.Sax Man โรส ศรินทิพย์ ดา เอ็นโดรฟิน ป๊อป แคลอรี่ บลา บลา พร้อมจัดคอนเสิร์ตโปรโมตอัลบั้มในช่วงปี 2551
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
ภาสนา ลดาพงษ์พัฒนา (แตง)โทร 0-2502-8170, 089-778-8112