กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
นิสสันมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นถึง 10% ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายอันดับหนึ่งทั่วโลกอย่างนิสสัน ลีฟ
ยอดขายของรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ในปีงบประมาณที่พึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา
มีการคาดการณ์ว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายหลังจากที่มีการเปิดตัว นิสสัน ลีฟ ใหม่ ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่นี้ เป็นที่น่าจับตามองทั้งในประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังขยายตลาดไปสู่ ลาตินอเมริกา เอเซีย และโอเชียเนียต่อไป
"นิสสันมียอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเติบโตทั่วโลกคือ ข้อพิสูจน์ถึงความความเป็นผู้นำ และผู้เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า" มร. แดเนียล สกิลลาชี (Daniele Schillaci - Executive Vice President, Nissan Motor Co., Ltd.) รองประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ ผู้ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในด้านรถยนต์ไฟฟ้าของนิสสัน กล่าวเสริมอีกด้วยว่า "ผลตอบรับอันน่าทึ่งต่อรถยนต์ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกอย่าง นิสสัน ลีฟ นำมาซึ่งยอดขายที่แข็งแกร่งของนิสสันในปี 2017 นิสสัน ลีฟ คือรถยนต์ไฟฟ้าที่มียอดขายอันดับหนึ่งในโลก สามารถเข้าถึงคนทุกกลุ่มได้มากที่สุด โดยนิสสันคาดว่าลีฟจะยังคงครองแชมป์ต่อไปในปี 2018"
โดยในปีงบประมาณ 2017 มีลูกค้าซื้อรถนิสสัน ลีฟ ทั้งหมด 54,451 คันซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 15% จาก 47,423 คัน จากปีก่อน นิสสันได้จำหน่ายลีฟไปแล้วกว่า 320,000 คันตั้งแต่มีการเปิดตัวรถรุ่นแรกในปี 2010
นิสสัน ลีฟ ใหม่มาพร้อมกับเทคโนโลยี และฟังก์ชั่นต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ProPILOT (ProPILOT Assist สำหรับตลาดของสหรัฐอเมริกา) ProPILOT Park และ e-Pedal รวมถึง สมรรถนะและระยะทางในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น
โดย นิสสัน ลีฟ ใหม่ จะจำหน่ายอย่างเป็นทางการใน อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล ชิลี จีน โคลอมเบีย คอสตาริกา เอกวาดอร์ ฮ่องกง มาเลเซีย นิวซีแลนด์ เปอร์โตริโก สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไทย และอุรุกวัย เร็วๆ นี้
นอกจากนี้ นิสสัน ลีฟ ใหม่ ยังได้รับการจัดอันดับความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จากโครงการประเมินรถยนต์ใหม่ในญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ โดยเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติหรือ ProPILOT ช่วยให้นิสสันลีฟได้คะแนนไป 94.8 จาก 100 คะแนนเต็มในด้านความปลอดภัยในยานยนต์ เมื่อเกิดการชน นอกจากนั้นยังมีโครงสร้างรถยนต์ทีแข็งแรง ถุงลมนิรภัยหกใบ เบาะนั่งแบบมีที่รองรับการกระแทกของศีรษะ และโครงหลัง รวมถึง เข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า และหลัง
นิสสัน ลีฟ ใหม่ยังได้รับรางวัล รถยนต์สีเขียวระดับโลกปี 2018 หรือ 2018 World Green Car จาก World Car Award เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอีกด้วย
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2559 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.63 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.72 ล้านล้านเยน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันมีพนักงานทั่วโลกจำนวน 247,500 คน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ภายใต้พันธมิตร เรโนลต์ – นิสสัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และในปี พ.ศ. 2559 นิสสันได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิ จนได้เข้าร่วมพันธมิตรเป็นสมาชิกรายที่สาม ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันสูงระดับ 10 ล้านคันในปี 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และการขนส่งเพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทาง nissan-global.com Facebook, Instagram, Twitter and LinkedInพร้อมรับชมวีดีโอล่าสุดได้ที่ YouTube