กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
นวัตกรรมล่าสุดจากนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ ที่ทำให้ยานยนต์สามารถเรียนรู้จากผู้ขับขี่
นิสสันนำเสนอความก้าวล้ำของเทคโนโลยีการขับขี่ผ่าน B2V (Brain-to-Vehicle) ที่จะทำให้ยานยนต์สามารถรับรู้และวิเคราะห์สัญญาณสมองของผู้ขับขี่ พร้อมสร้างนิยามใหม่ให้การขับขี่ด้วยประสบการณ์แบบอินเตอร์แอคทีฟ เทคโนโลยี B2V (Brain-to-Vehicle) ของนิสสันจะช่วยทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ขับขี่รวดเร็วขึ้น ทำให้สามารถควบคุมการขับขี่ได้ดีมากขึ้น รวมถึงเพิ่มประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกยิ่งขึ้นอีกด้วย
เทคโนโลยี B2V เป็นวิวัฒนาการล่าสุดของนิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ของนิสสันที่มุ่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบการขับขี่ยานยนต์ในอนาคต รวมถึงการทำให้ยานยนต์ใช้พลังงานขับเคลื่อนที่สะอาด และเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของคนในสังคม โดยนิสสันจะแสดงเทคโนโลยีสุดล้ำนี้ในงานแสดงเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ปี 2561 หรือ CES 2018 trade show ที่จะจัดขึ้น ณ เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา
"เวลาที่คนส่วนใหญ่นึกถึงเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ พวกเขายังคงไม่เห็นภาพที่มนุษย์ให้เทคโนโลยีเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างอย่างชัดเจน แต่เทคโนโลยี B2V ได้ทำสิ่งที่แตกต่างออกไป ด้วยการจับสัญญาณสมองของผู้ขับขี่ ในการสร้างประสบการณ์ที่น่าสนุกและตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์นิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ เรากำลังสร้างโลกที่ดีกว่าให้ทุกคนด้วยการนำเสนอเทคโนโลยียานยนต์อัจฉริยะที่มีความอัตโนมัติมากขึ้น ใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น และสามารถเชื่อมต่อกันได้มากยิ่งขึ้น" มร. แดเนียล สกิลลาชี รองประธานบริหาร ฝ่ายการขายและการตลาดทั่วโลก และประธานคณะกรรมการบริหาร ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ ประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ คอร์เปอร์เรชั่น กล่าว
เทคโนโลยีล่าสุดจากนิสสัน เป็นผลมาจากการค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีถอดรหัสสมองของมนุษย์ เพื่อคาดการณ์การกระทำและตรวจจับความกังวลของผู้ขับขี่ อันได้แก่
การคาดการณ์: โดยจับสัญญาณสมองก่อนที่ผู้ขับขี่จะลงมือทำการต่างๆ เช่น หมุนพวงมาลัย หรือเหยียบคันเร่ง เทคโนโลยีที่เปรียบเสมือนตัวช่วยของผู้ขับขี่จะทำให้การกระทำนั้นเกิดได้รวดเร็วขึ้น ถือเป็นการช่วยเร่งปฏิกริยาตอบสนองของผู้ขับขี่และทำให้สามารถขับขี่ได้ดีมากยิ่งขึ้น
การตรวจจับ: โดยการจับและประเมินความกังวลของผู้ขับขี่ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถเปลี่ยนลักษณะและรูปแบบการขับขี่ได้เมื่ออยู่ในโหมดขับขี่อัตโนมัติ
"นอกจากนี้สิ่งที่ B2V สามารถทำได้คือการปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมภายในรถยนต์" ดร. ลูเซียน กอร์เก (Dr. Lucian Gheorghe) นักค้นคว้าวิจัยด้านนวัตกรรมอาวุโส และหัวหน้าโครงการ B2V ศูนย์วิจัยยานยนต์นิสสันในประเทศญี่ปุ่น กล่าวโดย B2V สามารถใช้เทคโนโลยีภาพเสมือน (Augmented Reality - AR) ในการปรับเปลี่ยนสิ่งที่คนขับมองเห็น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายภายในห้องโดยสาร
"สิ่งที่ B2V สามารถทำได้เป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ" ดร. กอร์เก กล่าวเสริม "งานค้นคว้านี้จะเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ในยานยนต์ของนิสสันต่อไปในอนาคต"
เทคโนโลยี B2V ของนิสสัน ได้รับการคิดค้นขึ้นเป็นครั้งแรกในโลก โดยผู้ขับขี่ต้องสวมใส่เครื่องจับการทำงานของสมอง ซึ่งจะทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยระบบขับขี่อัตโนมัติ โดยระบบสามารถสั่งให้ยานยนต์ทำงาน เช่น หมุนพวงมาลัย หรือชะลอความเร็วของรถ ได้อย่างนิ่มนวล และรวดเร็วขึ้น 0.2 – 0.5 วินาที โดยพิจารณาจากความคิดที่เกิดขึ้นของผู้ขับขี่
นิสสันจะนำเสนอการทำงานบางส่วนของเทคโนโลยี B2V โดยมี ดร. กอร์เก เป็นผู้ให้สัมภาษณ์ ในงานแสดงเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ (CES) ณ บูธหมายเลข 5431 ณ ลาสเวกัส คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ นอร์ธ ฮอลล์