กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 19 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,277.95-1,284.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,850 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,980 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,920 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.34 น. ของวันที่ 19/06/61)
แนวโน้มวันที่ 20 มิถุนายน 2561
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ขู่เก็บภาษี 10% ต่อสินค้านำเข้าจากจีน 2 แสนล้านดอลาร์ ทำให้จีนขู่ตอบโต้ กลับทำให้ความขัดแย้งทางการค้าทวีความร้อนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ วิจารณ์พฤติกรรมการค้าของจีนว่า เป็น "เศรษฐกิจแบบเอาเปรียบ" ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า จีนจะตอบโต้กลับอย่างแน่วแน่ด้วยมาตรการที่มี "คุณภาพ" และ "ปริมาณ" หากสหรัฐประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติม โดยจีนกล่าวหาว่าสหรัฐเป็นผู้จุดชนวนสงครามการค้า ท่ามกลางความกังวลเรื่องความเป็นไปได้ของสงครามการค้าระหว่าง 2 ทั้งประเทศ เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นต่างๆ ให้ปรับฐานลง ทั้งนี้ ดัชนี MSCI ของเอเชีย-แปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น ปรับลง 1.78% และตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ครึ่งในวันอังคาร ซึ่งเป็นการปรับลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในแง่เปอร์เซ็นต์ในรอบ 3 เดือน หลังตลาดหุ้นจีนถูกเทขายอย่างหนักท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าโลกทวีความร้อนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้รับแรงหนุนอย่างจำกัด เนื่องจากราคาทองคำถูกดันจากสกุลเงินยูโรที่อ่อนค่าลง อันเป็นผลจากความขัดแย้งในรัฐบาลผสมของเยอรมนี และคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะคงอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2562 ขณะที่ประเด็นพันธมิตรรัฐบาวาเรียนของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อาจจะท้าทายเธอด้วยการเริ่มใช้แผนจำกัดการอพยพเข้าประเทศในบริเวณชายแดนเยอรมัน และเสี่ยงที่จะบั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลผสมอายุ 3 เดือนของเธอ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถทรงตัวเหนือโซน 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะผ่านแนวต้าน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้หรือไม่ หากผ่านไม่ได้นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่าในระยะสั้นหากราคาไม่สามารถ break out แนวต้าน 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ จะเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ราคากลับลงมาตั้งฐานบริเวณ 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีก แนะนำหากรับความเสี่ยงได้น้อยรอเปิดสถานะขายเมื่อราคาดีดขึ้นมาใกล้ 1,291 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากรับความเสี่ยงได้สูงอาจเสี่ยงเปิดสถานะซื้อเพื่อเก็งกำไรจังหวะดีดตัวหากราคายืนเหนือ 1,275-1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ตัดขาดทุนหากหลุด 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม วายแอลจีเน้นย้ำว่านักลงทุนระยะสั้นควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุน และปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,275 (19,750บาท) 1,263 (19,550บาท) 1,251 (19,400บาท)
แนวต้าน 1,291 (20,050บาท) 1,300 (20,200บาท) 1,309 (20,350บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,275 (19,890บาท) 1,263 (19,710บาท) 1,251 (19,520บาท)
แนวต้าน 1,291 (20,150บาท) 1,300 (20,290บาท) 1,309 (20,430บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999