กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
วันที่ 19 มิถุนายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ นายกฤษศญพงษ์ ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 โดยมี นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา ผู้แทนองค์การศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสถาบันการศึกษาด้านศาสนา และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาเข้าร่วม 260 คน
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 ลงวันที่ 22 สิงหาคม 2559 เรื่อง มาตรการอุปถัมภ์และคุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยให้เป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานของรัฐในการอุปถัมภ์คุ้มครองทุกศาสนา อันเป็นที่ยอมรับของทางราชการและประชาชนชาวไทย และในการส่งเสริมศาสนิกชนชาวไทยให้มีบทบาทในการพัฒนาประเทศ สร้างความสามัคคีปรองดอง และปฏิรูปประเทศ โดยไม่ขัดต่อกฎหมายและหลักธรรมคำสอนทางศาสนา และในการดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางดังกล่าว กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมการศาสนา ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ องค์การทางศาสนา หน่วยงานต่างๆ ร่วมกันจัดทำแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา และคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนดังกล่าว เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2560
ปลัด วธ. กล่าวต่ออีกว่า ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมกันขับเคลื่อนแผนการอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่างๆ และรายงานผลการดำเนินงานให้ทราบทุกระยะและได้รับผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ และเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง วธ. โดยกรมการศาสนา จึงจัดประชุมเสวนาขับเคลื่อนแผนอุปถัมภ์คุ้มครองศาสนาต่าง ๆ ภายใต้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 ระหว่างวันที่ 19 – 20 มิถุนายน 2561 เพื่อให้ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พระสงฆ์ ผู้นำศาสนา ผู้แทนองค์กรเครือข่ายทางศาสนา ผู้แทนส่วนราชการ สถาบันการศึกษาด้านศาสนา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และเจ้าหน้าที่กรมการศาสนา ได้มีโอกาสทบทวน ร่วมกันเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา อุปสรรคในการดำเนินงาน ได้รับทราบแนวทางในการขับเคลื่อนงานให้สอดคล้องกับภารกิจของหน่วยงาน ตลอดทั้งเข้าใจหลักคำสอน ข้อปฏิบัติเบื้องต้น และธรรมเนียมปฏิบัติของศาสนาต่าง ๆ เพื่อใช้ในการดำเนินงานให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 49/2559 และยุทธศาสตร์ของชาติในเรื่องของความมั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ วธ. ในฐานะหน่วยงานของรัฐ มีหน้าที่ในการส่งเสริมงานด้านศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม เห็นว่าศาสนาเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกภาคส่วนของสังคมจะต้องให้การส่งเสริม โดยเฉพาะทุกหน่วยงานของภาครัฐจะต้องถือเป็นหน้าที่ในการจะให้ความอุปถัมภ์บำรุงและคุ้มครองป้องกันให้ศาสนาดำรงอยู่ได้ เนื่องจากศาสนาเป็นสถาบันหลักของสังคมไทย เป็นบ่อเกิดของศิลปะ วัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงาม หลักคำสอนทางศาสนาเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของศาสนิกชนให้ประพฤติตนอยู่ในกรอบที่ดีงาม สร้างความรักความสามัคคีของประชาชน และดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ตลอดไป