กรุงเทพฯ--21 มิ.ย.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
ธุรกิจบันเทิงไทยมาแรง ต่างชาติรุมจีบ ติดต่อซื้อขาย ลงทุน ร่วมผลิต และจ้างผลิต มูลค่าการค้ากว่า 370 ล้านบาท หลังผนึกกำลังผู้ประกอบการ 23 บริษัท ขนทัพหนัง ทีวี แอนิเมชั่น และโพสโปรดักชั่นไทย เข้าร่วมเจรจาการค้างาน Hong Kong International Film & TV Market 2018 (FILMART) ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 19 – 22 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการบูรณาการจัดงานร่วมกันโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวัฒนธรรม และกรมการท่องเที่ยว
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ระหว่างวันที่ 19 – 22 มีนาคม ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ มีภารกิจหลักในการจัดการเจรจาการค้าให้ผู้ประกอบการไทย จำนวน 23 บริษัท ได้มีโอกาสนัดหมายกับผู้ซื้อตัวจริงภายในงาน Hong Kong International Film & TV Market 2018 (FILMART) ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเกินคาด แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก ต่างชาติให้การยอมรับในคอนเทนต์ไทย โดยเฉพาะในตลาดเอเชียถือได้ว่าไทยมาแรงมากทั้งด้านการผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชั่น รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ การผลิตรายการและละครโทรทัศน์ และการผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์สารคดี ภายในงานเกิดการจับคู่เจรจาการค้ารวมจำนวนกว่า 450 คู่ ประมาณการมูลค่าเจรจาการค้ากว่า 405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 80
โดยมูลค่าการเจรจาการค้าจำนวน 405 ล้านบาท เป็นผลสืบเนื่องมาจากกลุ่มผู้ผลิตและจัดจำหน่ายภาพยนตร์และแอนิเมชั่น อาทิ บริษัท ฮอลลีวู้ด (ไทยแลนด์) จำกัด ได้เจรจาการร่วมผลิตภาพยนตร์ Co-Production กับบริษัท Braros Pictures ประเทศฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทที่มีเงินลงทุนอันดับต้นๆ ของฮ่องกง บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด ได้พบผู้ค้าใหม่ในประเทศจีนซึ่งทำให้เกิดการเจรจาซื้อขายภาพยนตร์เรื่องใหม่ อีกทั้งบริษัทภาพยนตร์ไทยอื่นๆได้พบกับ Distributor จีนเป็นจำนวนมาก และได้เปิดตลาดจีนในมณฑลใหม่ๆ นอกเหนือจากที่เคยเจรจาการค้ามาแล้ว ส่วนกลุ่มบริการเกี่ยวเนื่องกับภาพยนตร์และวีดิทัศน์ อาทิ บริษัท เบนีโทน ฟิล์มส์ จำกัด ได้ร่วมเจรจา Co-Production กับประเทศจีน และกลุ่มผู้ผลิตรายการและละครโทรทัศน์ อาทิ บริษัท บีอีซี เวิล์ด จำกัด (มหาชน) ได้มาออกตลาดเป็นทางการครั้งแรกกับงาน Hong Kong International FIlm & TV Market ซึ่งได้เจอกับลูกค้ารายเดิม และมีความคืบหน้าในการเซ็นต์สัญญาในเทศกาลนี้ อีกทั้งยังได้เจอกับลูกค้ารายใหม่ๆในกลุ่มประเทศจีน โดยเฉพาะ มณฑลรอง เกาหลี ญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเป็นการเจรจาซื้อละครโทรทัศน์หลายๆเรื่อง รวมถึงตลาดออนไลน์ ที่กำลังจะมีกำลังซื้อต่อไป และกลุ่มผู้ผลิตภาพยนตร์สารคดีไทย อาทิ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ได้มีการเจรจาซื้อขายสิทธิ์ของสารคดี อีกทั้งยังได้ร่วมเจรจา Co-Production กับบริษัท A Co. ประเทศญี่ปุ่น