กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท ปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอุตรดิตถ์ - (ตรอน) อำเภอเมือง - ตรอน จังหวัดอุตรดิตถ์ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและระบบส่ง-จ่ายน้ำพร้อมขยายพื้นที่ให้บริการแก่ชุมชนใกล้เคียง เพิ่มโอกาสการเข้าถึงน้ำสะอาด มั่นใจรองรับความต้องการใช้น้ำและการเติบโตของชุมชนที่เพิ่มขึ้นได้อีก 10 ปี
นายสมชาย มนต์บุรีนนท์ รองผู้ว่าการ (วิชาการ) รักษาการแทนผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า กปภ. ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้ง 74 จังหวัด ทั่วประเทศ ให้สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างครอบคลุมในทุกพื้นที่ ซึ่งในปัจจุบันพบว่าชุมชน รอบนอกมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการสาธารณูปโภคเพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน กปภ. จึงได้จัดสรรงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท เพื่อดำเนินการปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาอุตรดิตถ์ - (ตรอน) อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนในระยะยาว ด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนาระบบส่ง-จ่ายน้ำ พร้อมขยายพื้นที่การให้บริการในชุมชนใกล้เคียง โดยแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ทำให้ กปภ.สาขาอุตรดิตถ์ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำจากเดิม 120 ลบ.ม./ชม. เป็น 400 ลบ.ม./ชม. พร้อมรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นในพื้นที่เทศบาลตำบลงิ้วงาม ท่าเสา น้ำริด บ้านด่านนาขาม ผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และเขตเทศบาลตำบลวังแดง อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งจะสามารถส่งจ่ายน้ำในโซนพื้นที่สูงและยังสามารถขยายเขตพื้นที่บริการออกไปในพื้นที่ใกล้เคียงได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับแรงดันน้ำ นอกจากนี้ยังขยายพื้นที่การให้บริการเพิ่มในเขตเทศบาลตำบลคุ้งตะเภา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ รวมระยะทางกว่า 209 กม. เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำและรองรับการขยายตัวของชุมชนและประชากรในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าจะสามารถให้บริการประชาชนในชุมชน อ.เมือง และ อ.ตรอน จ.อุตรดิตถ์ได้สูงถึง 79,399 ราย โดยได้รับการสนับสนุนแหล่งน้ำดิบหลักสำหรับผลิตน้ำประปาจากเขื่อนสิริกิติ์ ซึ่งถือว่า มีปริมาณน้ำดิบเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน อีกทั้งคุณภาพน้ำดิบมีความเหมาะสมสำหรับการผลิตน้ำประปาตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการปรับปรุงขยายพื้นที่การให้บริการดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำประปาใช้อย่างเพียงพอและสามารถแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในพื้นที่ได้อีก 10 ปี ประชาชนจึงมั่นใจได้ว่าจะมีน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคเพียงพอต่อความต้องการอย่างแน่นอน