กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์
บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด นำทีมโดย คณะผู้บริหาร พนักงาน ผู้จัดจำหน่าย และลูกค้าวอลโว่ ร่วมกับสื่อมวลชนและประชาชนชาวบางแสน รวมกว่า 200 คน จัดกิจกรรมเก็บขยะทำความสะอาดชายหาดบางแสนและรณรงค์การลดใช้พลาสติกเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก
วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เข้าร่วมแคมปญสากลวอลโว่ในการลดใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติก การกำจัดขยะพลาสติก ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ถึงวิกฤติไมโครพลาสติกซึ่งตกค้างอยู่ใต้ท้องทะเลและสร้างมลพิษแก่มหาสมุทรทั่วโลก
กิจกรรมเก็บขยะทำความสะอาดชายหาดครั้งนี้ถือเป็นโครงการเพื่อสังคมของวอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ที่มุ่งเน้นการกำจัดขยะพลาสติกและขยะอื่น ๆ บนชายหาดบางแสน เทศบาลเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี โดยมีคณะผู้บริหาร พนักงาน ผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าของวอลโว่ ตลอดจนสื่อมวลชนและประชาชนในพื้นที่ รวมกว่า 200 คนร่วมทำกิจกรรม โดยสามารถช่วยกันเก็บขยะรวมแล้วมากกว่า 494 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ไม่น้อยเลย ขยะส่วนใหญ่เป็นประเภทพลาสติก ขวดน้ำ กล่องภาชนะต่าง ๆ รวมถึงกระดาษ เศษไม้ โฟม วัสดุแร๊พอาหาร เศษแก้ว กระป๋อง หนังสือพิมพ์และพลาสติกแร๊พปากขวดน้ำดื่ม
กิจกรรมดังกล่าวช่วยสร้างความตระหนักรู้และปลูกจิตสำนึกที่ดีในหมู่ประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ในการช่วยกันรักษาความสะอาดของชายหาดและท้องทะเล ตลอดจนลดพฤติกรรมการใช้พลาสติกและลดการทิ้งขยะหรือพลาสติกลงในแม่น้ำลำคลองและทะเล เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ เป็นอันตรายต่อสัตว์ต่าง ๆ และสร้างมลภาวะจากขยะพลาสติกตกค้างใต้ท้องทะเล
กิจกรรมนี้ มีพนักงานและผู้จัดจำหน่ายวอลโว่มากกว่า 850 คนใน 16 ประเทศที่สละเวลาการทำงานมาเพื่อช่วยกันเก็บเศษขยะและทำความสะอาดชายหาดโดยพร้อมเพรียงกัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนวันสิ่งแวดล้อมโลกและโครงการริเริ่มเพื่อทะเลสะอาดขององค์การสหประชาชาติ (UN Environment Clean Seas Campaign)
ตั้งแต่ปีคศ. 1974 (พ.ศ. 2517) วันสิ่งแวดล้อมโลกเป็นวันที่ถูกกำหนดให้เกิดการตระหนักรู้และดำเนินการเพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อมทั่วโลก โดยธีมในปีนี้คือ "Beat Plastic Pollution" จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติพบว่ามี ขยะพลาสติกกว่า 8 ล้านตันที่ถูกพบในทะเลต่อปี หากเราไม่ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหาตั้งแต่ตอนนี้ ในปี 2050 (พ.ศ.2593) เราอาจจะพบขยะมากกว่าปลาในทะเลอย่างแน่นอน
มร.คริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เนื่องจากไทยถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในประเทศที่สร้างขยะพลาสติกต่อรายหัวประชากร และใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้งในปริมาณสุทธิสูงสุดของโลก ซึ่งในการจัดกิจกรรมเก็บขยะทำความสะอาดชายหาดครั้งนี้ เราปรารถนาที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความตื่นตัวของชุมชนต่อปัญหาดังกล่าว เพราะวอลโว่เชื่อมั่นว่าคนไทยล้วนมีความห่วงใยในสิ่งแวดล้อมและพยายามที่จะรักษาสภาพแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป"
กิจกรรมการทำความสะอาดชายหาดของวอลโว่ในรายการ Volvo Ocean Race
ความยั่งยืนถือเป็นสาระสำคัญในการดำเนินงานของวอลโว่ ซึ่งก่อให้เกิดรายการ Volvo Ocean Race เพื่อการทำความสะอาดท้องทะเลและกระตุ้นให้ผู้คนหันมาสนใจและเริ่มลงมือแก้ไขปัญหามลภาวะจากพลาสติกที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นทั่วโลก ปัจจุบัน เราได้จัดกิจกรรมทำความสะอาดชายหาดไปแล้ว 5 แห่งในอาลิกันเต เคปทาวน์ ฮ่องกง ออกแลนด์ และอิตาจัย
วอลโว่ คาร์ กรุ๊ป ในปี 2017
ในปีงบประมาณ 2017 วอลโว่ คาร์ กรุ๊ป บันทึกผลกำไรจากการดำเนินงานที่ 14,061 ล้านโครนสวีเดน (จาก 11,014 ล้านโครนสวีเดน ในปี 2016) โดยมีรายได้ทั้งปีที่ 210,912 ล้านโครนสวีเดน (180,902 ล้านโครนสวีเดนในปี 2016) โดยในปี 2017 สามารถจำหน่ายรถยนต์ได้ 571,577 คัน เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2016 ความสำเร็จนี้ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการดำเนินงานและการเงินของวอลโว่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยการตั้งตำแหน่งทางการตลาดให้บริษัทเพื่อสร้างความเติบโตในอนาคต
เกี่ยวกับ วอลโว่ คาร์ กรุ๊ป
วอลโว่ เริ่มดำเนินการในปี ค.ศ. 1927 ปัจจุบัน วอลโว่ คาร์ คือหนึ่งในแบรนด์รถยนต์ชื่อดังและได้รับการยอมรับทั่วโลกด้วยยอดขายถึง 571,577 คัน ในกว่า 100 ประเทศ ในปี ค.ศ. 2017 โดย วอลโว่ คาร์ ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ บริษัท เจ้อเจียง จีลี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด (จีลี่ โฮลดิ้ง) ในประเทศจีนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2010 โดยก่อนหน้านี้ บริษัทก่อตั้ง สวีดิช วอลโว่ กรุ๊ป และดำเนินงานมาจนถึงปี ค.ศ. 1999 จึงถูกซื้อโดย ฟอร์ด มอเตอร์ ของสหรัฐฯ และต่อมาในปี ค.ศ. 2010 วอลโว่ คาร์ ได้ถูกซื้อโดย จีลี่ โฮลดิ้ง
ในปี ค.ศ. 2017 วอลโว่ คาร์ มีพนักงานทำงานเต็มเวลาราว 38,000 คน (จาก 30,400 คน) โดยมีสำนักงานใหญ่ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และธุรการ ตั้งอยู่ในเมืองโกเธนเบิร์ก ประเทศสวีเดน ส่วนสำนักงานใหญ่ของวอลโว่ คาร์ ในจีน ตั้งอยู่ที่นครเซี่ยงไฮ้ โรงงานการผลิตส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองโกเธนเบิร์ก (สวีเดน), เมืองเกนต์ (เบลเยียม), เมืองเฉิงตูและต้าชิ่ง (จีน) โดยผลิตเครื่องยนต์ที่เมืองสโกเปีย (สวีเดน) และเมืองจางเจี๋ยโกว (จีน) และผลิตชิ้นส่วนตัวถังในเมืองอูล็อฟสเตริม (สวีเดน)