กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
ก.แรงงาน ห่วงใยแรงงานทุกช่วงวัย มุ่งเป้าเสริมทักษะผู้สูงอายุ มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนฝึกอาชีพกว่า 73,000 คน
นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากการที่พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ กพร. เร่งดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และความมั่นคงในชีวิต ซึ่งมีผู้ลงทะเบียนกว่า 6 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุกว่า 73,000 คน ทั้งนี้ดำเนินการฝึกโดยสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน รวมถึงเครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงานด้วย
นายวิชัย ผิวสอาด ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฝึกตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้มีรายได้น้อยฯ ในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยมีนายสุชัย พงศ์พัฒนพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานนครพนม (สนพ.นครพนม) และเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานผลการดำเนินโครงการดังกล่าว ซึ่งจังหวัดนครพนม มีผู้มีรายได้น้อยที่แจ้งความประสงค์ฝึกอาชีพเสริม จำนวน 4,676 คน และฝึกช่างอเนกประสงค์ (ช่างชุมชน) อีกจำนวน 348 คน รวมทั้งสิ้น 5,024 คน ปัจจุบันได้ดำเนินการฝึกช่างอเนกประสงค์ไปแล้ว 2 รุ่น 40 คน และฝึกอาชีพเสริมหรืออาชีพอิสระ ไปแล้ว 18 รุ่น 399 คน
นายสมพร วงศ์เกษ (พร) อายุ 71 ปี เข้าฝึกอาชีพ สาขา การทำขนมไทย ดำเนินการฝึกโดยสนพ.นครพนม ลุงพรเล่าว่า ก่อนหน้าที่จะมาฝึกอาชีพในครั้งนี้ เคยเปิดร้านขายอาหารอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่ด้วยอายุมากแล้วและสุขภาพไม่ค่อยดีนัก จึงพาครอบครัวกลับบ้านเกิดที่จังหวัดนครพนม พร้อมกับรัฐบาลประกาศให้ไปลงทะเบียนฝึกอาชีพ ลุงพรและภรรยา จึงสมัครฝึกในสาขาการทำขนมไทย เพราะคิดว่า การทำขนมไทยขายน่าจะพอทำได้ ลงทุนไม่เยอะ เหมาะกับวัยของลุงพรและภรรยา โดยมีหลานสาวอีกคนที่จะทำหน้าที่ในการส่งขนมไปยังร้านค้าต่างๆ หลังจากจบการฝึกแล้วลุงพรคิดว่าจะมีรายได้มากขึ้นและเพียงพอกับการใช้จ่ายในครอบครัว ลุงพรฝากทิ้งท้ายด้วยว่า อยากฝึกด้านการทำเบเกอรี่เพิ่มเติมด้วย
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการตรวจเยี่ยมเพื่อสร้างขวัญและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้เข้าอบรมในสาขา การทำขนมไทย ณ องค์การบริหารส่วน ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม จำนวน 20 คน จากการพูดคุยกับผู้ฝึกอบรมทุกคนรู้สึกดีใจและขอบคุณหน่วยงานของรัฐที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุน ต่างมองว่า จบออกไปแล้วจะสามารถนำไปประกอบอาชีพได้ พร้อมมองหาแหล่งเงินทุน ซึ่ง สนพ.นครพนม จะให้คำแนะนำต่อไป และเน้นย้ำให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ยึดระเบียบเป็นหลัก ตรวจเอกสารอย่างละเอียดรอบคอบ จัดเก็บให้เป็นระเบียบเพื่อการค้นหา ซึ่งหลังจากปิดโครงการแล้ว จะมีการติดตามผล เอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฝึก จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการอ้างอิง อธิบดี กพร. กล่าว