กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--
JCKH ขายหุ้นเพิ่มทุนฉลุย กลุ่มหุ้นใหญ่ใช้สิทธิเต็มจำนวน รับเงินจากการเพิ่มทุนกว่า 179.5 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ส่วนทุนขยับ ขณะที่หนี้ต่อทุนลดลงทันทีเหลือเพียง 2.8 เท่า พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารเต็มสูบ มั่นใจรายได้ปีนี้อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาทตามเป้าหมาย
นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JCKH เปิดเผยว่า ผลการเพิ่มทุน ในวันที่ 18-22 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ใช้สิทธิเต็มจำนวน ทำให้บริษัทได้รับเงินจากการเพิ่มทุน จำนวน 179.5 ล้านบาท สำหรับหุ้นที่เหลือจากการเสนอขาย บริษัทฯจะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปขึ้นอยู่กับตามความจำเป็นในการใช้เงินทุนของบริษัทฯ และภาวะตลาดในช่วงเวลานั้นอีกครั้งหนึ่ง
"ภายหลังจากการเพิ่มทุน บริษัทฯจะมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้มีส่วนของทุนเพิ่มขึ้นเป็น 180.5 ล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่เพียง 1 ล้านบาท สัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดจาก 453 เท่า เหลือเพียง 2.8 เท่า ส่งผลการเพิ่มทุนในครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ มีฐานทุนและฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้น
โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนสำหรับขยายธุรกิจ และเทคโอเวอร์ร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆเพิ่มเข้ามา เพื่อสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทฯเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต" นายอภิชัย กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในส่วนของแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/61 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างภายในองค์กร โดยปิดสาขาที่ไม่สร้างรายได้ คงเหลืออยู่ 102 สาขา ได้แก่ Hot Pot 91 สาขา , Daidomon 7 สาขา ,Signature 2 สาขา , Toomato Italian Kitchen 1 สาขาและ Soupper Pot 1 สาขา
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนจะปรับปรุงและตกแต่งสาขาเดิม โดยจะปรับปรุงทั้งในเรื่องคุณภาพอาหาร, ความสะอาดของร้าน และภาพลักษณ์ของร้านใหม่ รวมถึงการขยายสาขาใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนจากการเพิ่มทุนในคราวนี้ประมาณ 50 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพในบริหารต้นทุน คาดว่าจะทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนอาหาร (Food cost) ลดลงเหลือ 46% จากปัจจุบัน 48% และในอนาคตคาดหวังจะลดลงให้ต่ำกว่า 42%