กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 25 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,264.14-1,272.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาทรงตัวจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,880 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,900 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.47 น. ของวันที่ 25/06/61)
แนวโน้มวันที่ 26 มิถุนายน 2561
ความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เมื่อวอลสตรีท เจอนัล อ้างแหล่งข่าวที่เปิดเผยว่า หน่วยงานสหรัฐเตรียมจะประกาศมาตรการห้ามไม่ให้บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นจีนตั้งแต่ 25% ขึ้นไปลงทุนในธุรกิจไฮเทค ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ เพื่อตอบรับนโยบาย "Made in China 2025" ที่ตั้งเป้าที่จะพัฒนาให้จีนเป็นผู้นำเทคโนโลยีของโลกในอนาคต นอกจากนี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐขู่ผ่านทางทวิตเตอร์ว่า จะการเรียกเก็บภาษี 20% ต่อการนำเข้ารถยนต์ที่ประกอบในสหภาพยุโรป (EU) "หากภาษีและกำแพงต่างๆ ของ EU เหล่านี้ไม่ถูกยกเลิกโดยเร็ว ปัจจุบันสหรัฐเรียกเก็บภาษี 2.5% ต่อการนำเข้ารถยนต์ส่วนบุคคลจาก EU และ 25% ต่อการนำเข้ารถกระบะ ส่วน EU เรียกเก็บภาษี 10% ต่อการนำเข้ารถยนต์จากสหรัฐ อย่างไรก็ตามราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่มากเพราะ นายวิลเบอร์ รออส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า จะเสร็จสิ้นการตรวจสอบว่า การนำเข้ารถยนต์สร้างความเสี่ยงต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐหรือไม่ ภายในปลายเดือนก.ค.หรือส.ค. ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ออกมาประกาศว่า สหภาพยุโรป (EU) จะตอบโต้ต่อความเคลื่อนไหวใดๆของสหรัฐในการขึ้นภาษีต่อรถยนต์ที่ผลิตใน EU ความขัดแย้งทางการค้าที่รุนแรงขึ้น กดดันความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งตลาดหุ้นซื้อขายล่วงหน้าในสหรัฐปรับลดลงอย่างมากในการช่วงการเปิดตลาดซื้อขายของตลาดเอเชีย และ ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดอ่อนตัวลงในวันจันทร์ โดยหากเทียบในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลง 2% ซึ่งเป็นการทำผลงานรายสัปดาห์ที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. ดัชนี S&P 500 ร่วง 0.9% และดัชนี Nasdaq ร่วง 0.7% นอกจากนี้ทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินยูโรทะยานขึ้น หลังจากที่นายจูเซปเป คอนเต นายกรัฐมนตรีอิตาลี กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยพิจารณาการถอนตัวจากยูโรโซน เบื้องต้นประเมินว่าราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซน 1,260-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากสามารถยืนได้ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,276-1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง แต่เนื่องจากราคาขยับขึ้นมาค่อนข้างน้อยอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมา สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งขายทำกำไรเพียงบางส่วนหากราคาดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเข้าซื้ออีกครั้งหากราคามีการย่อตัวลงมาไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,260-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคารักษาระดับไว้ได้ก็เป็นจุดที่เข้าซื้อเก็งกำไรจากการดีดตัว ซึ่งวายแอลจี มีมุมมองว่าหากแรงขายไม่มากราคาทองคำที่อ่อนตัวลงเป็นเพียงช่วงปรับฐานของราคาเพื่อสะสมแรงซื้อ สามารถลงทุนระยะสั้นโดยรอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,255 (19,500บาท) 1,242 (19,300บาท) 1,234 (19,200บาท)
แนวต้าน 1,276 (19,900บาท) 1,284 (20,000บาท) 1,295 (20,200บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,255 (19,640บาท) 1,242 (19,440บาท) 1,234 (19,310บาท)
แนวต้าน 1,276 (19,980บาท) 1,284 (20,100บาท) 1,295 (20,270บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999