กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 22 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,266.30-1,271.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,800 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,750 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM18 อยู่ที่ 19,890 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 60 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,830 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.50 น. ของวันที่ 22/06/61)
แนวโน้มวันที่ 25 มิถุนายน 2561
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) มีแนวโน้มปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสำหรับยูโรโซน เนื่องจากยูโรโซนเผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากการค้า, การเจรจาถอนตัวจากสหภาพยุโรป (EU) ของอังกฤษ และความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการผ่อนคลายด้านการคลังในอิตาลี นอกจากนี้ แผนเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีขาดความชัดเจน ขณะที่กรณีจากการเลือกผู้ที่คัดค้านการใช้สกุลเงินยูโรเข้าตำแหน่งสำคัญในสภาอิตาลี กระตุ้นความวิตกอีกครั้งเกี่ยวกับเสียงต่อต้านยูโรในอิตาลี ความกังวลดังกล่าว ยังคงกดดันสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ ขณะที่ IMF จะเดินทางเยือนอิตาลีในอีก 2 สัปดาห์ภายใต้ภารกิจเดินทางเยือนตามปกติ IMF ต้องการความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับแผน ก่อนหน้านี้ยูโรร่วงลงจากคาดการณ์ถึงนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดครั้งใหม่รอบ 11 เดือน หลังจากที่เข้าทดสอบแนวรับทางเทคนิคในช่วง 1.15 ดอลลาร์ ประกอบกับ ผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ซึ่งกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (MPC) แม้ว่าจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.50% ตามคาด แต่นักเศรษฐศาสตร์ระดับสูงของ BoE สนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่คาดคิด ทั้งนี้ นายแอนดี ฮาลเดน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BoE เข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายเสียงข้างน้อยในการเรียกร้องอย่างไม่คาดคิดให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ 0.75% โดยระบุถึงความวิตกเกี่ยวกับแรงกดดันด้านค่าแรงที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สกุลเงินปอนด์ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดรอบ 7 เดือน และส่งผลบวกต่อสกุลเงินยูโรและราคาทองคำ สำหรับนักลงทุนยังคงเน้นเข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำได้ดีดตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาทองคำมีแนวโน้มจะอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับแต่หากสามารถผ่านไปได้ ราคาทองคำจะเผชิญแนวต้านถัดไปที่ 1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับราคาทองคำพยายามทรงตัวเพื่อรอปัจจัยใหม่ๆเข้ามาส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคา ระยะสั้นคาดการณ์ว่าราคาทองคำพยายามพยุงราคา โดยอาจมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาบ้าง โดยถ้าราคามีการปรับตัวลดลงและไม่หลุดแนวรับ นักลงทุนยังสามารถเข้าซื้อทองเพื่อสะสมเพิ่มเติม ซึ่งคาดการณ์แนวรับที่ระดับราคา 1,260-1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคามีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับราคา 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากผ่านไปได้จะมีแนวต้านต่อไปที่ระดับ 1,284 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยง หรือตั้งจุดตัดขาดทุนเมื่อราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,255 (19,550บาท) 1,242 (19,350บาท) 1,234 (19,200บาท)
แนวต้าน 1,276 (19,900บาท) 1,284 (20,050บาท) 1,295 (20,200บาท)
GOLD FUTURES (GFM18)
แนวรับ 1,255 (19,660บาท) 1,242 (19,460บาท) 1,234 (19,330บาท)
แนวต้าน 1,276 (20,000บาท) 1,284 (20,120บาท) 1,295 (20,290บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999