ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตแก่ธนาคารนครหลวงไทย

ข่าวทั่วไป Thursday December 6, 2007 16:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตแก่ธนาคารนครหลวงไทยหรือ SCIB ดังต่อไปนี้อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-term foreign currency Issuer Default Rating (IDR)) ที่ ‘BB’ อันดับเครดิตสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้น (Short-term foreign currency) ที่ ‘B’ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Rating) ที่ ‘A-(tha)’ (A ลบ (tha)) แนวโน้มมีเสถียรภาพ อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ ‘F1(tha)’ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคารที่ ‘D’ อันดับเครดิตสนับสนุนที่ ‘4’ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำที่ ‘B+’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
ฟิทช์คงอันดับเครดิตของ SCIB ในขณะที่ธนาคารมีคุณภาพของสินทรัพย์ที่ด้อยลงในช่วงปีที่ผ่านมา SCIB มีการรายงานขาดทุนสุทธิที่ 3.4 พันล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2550 เป็นผลจากการกันสำรองหนี้สูญเป็นจำนวนมากที่ 6.8 พันล้านบาท การกันสำรองที่เข้มงวดขึ้นและคุณภาพของลูกหนี้ที่ด้อยลงมีผลทำให้ระดับของหนี้สินค้างชำระเพิ่มขึ้นอย่างมากโดยอยู่ที่ระดับ 2.1 หมื่นล้านบาท หรือ 8.6% ของสินเชื่อทั้งหมด ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 (เทียบกับ 1.3 หมื่นล้านบาท หรือ 5.6% ณ สิ้นปี 2549) อย่างไรก็ตาม ระดับการกันสำรองหนี้สูญซึ่งอยู่ที่กว่า 70% ของหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ นับว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเทียบได้กับธนาคารอื่นในประเทศ แนวโน้มคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารยังขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2551 และยังขึ้นอยู่กับการปรับปรุงมาตรฐานในการปล่อยสินเชื่อและความสามารถในการจัดเก็บในส่วนของลูกหนี้ ฐานะเงินกองทุนของธนาคารนครหลวงไทยยังจัดได้ว่าแข็งแกร่งเช่นกัน โดยเงินกองทุนชั้นที่ 1 ของธนาคารอยู่ที่ระดับ 13.2% ของสินทรัพย์เสี่ยง ณ สิ้นเดือน กันยายน 2550
แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพสะท้อนถึงอัตราส่วนของเงินกองทุนที่แข็งแกร่งซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนในช่วงที่ภาวะการดำเนินงานอ่อนแอลง ความชัดเจนในส่วนของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะยาวและในส่วนของโครงสร้างของผู้ถือหุ้น รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของความแข็งแกร่งของเครือข่ายธุรกิจของธนาคาร การควบคุมความเสี่ยงและคณะผู้บริหาร สามารถที่จะช่วยเพิ่มอันดับเครดิตได้ในระยะปานกลาง ฟิทช์เชื่อว่า ความสนับสนุนของทางการที่จะมีต่อ SCIB จะมีอยู่อย่างจำกัดตอไป ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีผู้ผู้ถือหุ้นหลักในปัจจุบัน
SCIB ถูกทางการเข้าไปถือหุ้นหลักหลังจากเกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2540 และในปี 2545 SCIB ได้ควบรวมธนาคารมหานคร กองทุนฟื้นฟูเพื่อพัฒนาระบบสถาบันการเงินซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารแห่งประเทศไทยมีสัดส่วนถือหุ้น 48% และมีแนวโน้มที่จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงในอนาคต ธนาคารมีพนักงานประมาณ 7,000 คน และมีจำนวนสาขากว่า 400 สาขาทั่วประเทศ ปัจจุบัน ธนาคารนครหลวงไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้านสินเชื่อและเงินฝากอยู่ประมาณ 6% ธนาคารยังมีบริษัทในเครือซึ่งอยู่ในธุรกิจประกัน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจเช่าซื้อ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ