กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--บียอนด์ โซลูชันส์
ควินท์ เรล์ม บี.วี. ซึ่งจดทะเบียนบริษัทในประเทศเนเธอร์แลนด์ เผย ความคืบหน้าล่าสุดในการระดมทุนในรูปแบบไอซีโอ (ICO: Initial Coin Offering) ผ่านการออกเหรียญควินท์ คอยน์ (QUiNT COIN) จำนวน 1,250 ล้านโทเคน เสนอขายแก่ผู้ที่สนใจจากทั่วโลก ในราคาเหรียญละ 0.024 ดอลลาร์สหรัฐ/
โทเคน หรือประมาณ 0.75 บาท/โทเคน ซึ่งสิ้นสุดการเสนอขายไปเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา รวมยอดระดมทุนได้ทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 661 ล้านบาท ทะลุยอดระดมทุนขั้นต่ำ (Minimum Requirement: Soft Capital) ซึ่งกำหนดไว้ที่ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 200 ล้านบาท พร้อมแล้วสำหรับเดินหน้าการวางระบบเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของโครงการ ควินทิลเลียน เบิร์ก ตามแผนงานที่วางไว้
นายจักรพงศ์ ธรรมวิเศษศรี ประธานกรรมการบริหาร ควินท์ เรล์ม ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการควินทิลเลียน เบิร์ก (QUiNTILLION BURGH) โครงการเมืองอัจฉริยะท่ามกลางธรรมชาติเพื่อผู้อยู่อาศัยวัยเกษียณจากทั่วโลก กล่าวว่า "การวางโครงสร้างพื้นฐานของระบบสมาร์ทซิตี้ ประกอบด้วยระบบอำนวยความสะดวก ระบบรักษาความปลอดภัย ระบบเฝ้าระวังดูแลสุขภาพแบบเรียลไทม์ และระบบ cashless Society เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับชีวิตวัยเกษียณ ซึ่งนี่เป็นจุดขายสำคัญของโครงการ"
"ควินท์ คอยน์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society ที่จะถูกใช้เป็นสื่อในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในโครงการควินทิลเลียน เบิร์ก โดยในเฟสแรกๆ มีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นชาวยุโรป โดยเฉพาะจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ และประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวีย การที่ควินท์ เรล์ม บี.วี. ซึ่งเป็นตัวแทนฝ่ายขายและการตลาดของโครงการควินทิลเลียน เบิร์ก (QUiNTILLION BURGH) ออกควินท์ คอยน์ สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมาย นอกจากจะเป็นส่วนผลักดันการพัฒนาโครงการไปตามแผน แต่ยังเป็นสัญญาณที่ยอดเยี่ยมที่ชี้ว่าโครงการได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งนี้ ที่ผ่านมามีลูกค้าใช้ควินท์ คอนย์ เพื่อซื้อสิทธิการเช่าที่อยู่อาศัยได้แล้วอีกด้วย"
โครงการควินทิลเลียน เบิร์ก (QUiNTILLION BURGH) ตั้งอยู่บนแนวคิดเมืองอัจฉริยะท่ามกลางธรรมชาติเพื่อผู้อยู่อาศัยวัยเกษียณจากทั่วโลก บนพื้นที่ขนาดประมาณ 3,200 ไร่ หรือประมาณ 4.8 ตารางกิโลเมตร ในอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันบริสุทธิ์ มีการนำแนวคิดเมืองอัจฉริยะเข้ามา เพื่อการบริหารจัดการโครงการอย่างเต็มศักยภาพในทุกส่วน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยและการดูแลสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ซึ่งสำรวจแล้วว่าเป็นความต้องการหลักของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายวัยเกษียณที่ปรารถนาจะเข้ามาใช้ชีวิตในเมืองไทย
"เราให้ความสำคัญกับการศึกษา และสำรวจความต้องการ ตลอดจนแนวโน้มตลาดของกลุ่มวัยเกษียณจากทั่วโลก โดยพบว่า ในปี 2573 ทั้งโลกจะก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มขั้น โดยจะมีผู้สูงวัยรวมมากกว่า 1,400 ล้านคน นี่จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เริ่มต้นสร้างโครงการที่รองรับกับความต้องการของคนในกลุ่มนี้ เราตั้งเป้าให้สามารถเปิดบริการในเฟสแรกได้ ภายในปี 2564 โดยมีจำนวนประมาณ 1,000 ยูนิต จากจำนวนกว่า 9,000 ยูนิต ของทั้งโครงการโดยประมาณ" นายจักรพงศ์ กล่าวเสริม
ความคืบหน้าของโครงการในปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำพิมพ์เขียว (Blueprint) ของโครงการ โดย สถาปนิก 49 (A49) ผู้นำด้านการออกแบบสถาปนิกเบอร์ต้นของเมืองไทย ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบโครงการสำคัญๆ ในระดับโลก ภายใต้การให้คำแนะนำของ คอลลิเออร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Colliers International Thailand) ทั้งนี้ทางควินท์ เรล์ม อยู่ระหว่างการพิจารณาศึกษาแนวทางในด้านการวางระบบสมาร์ทซิตี้ โดยเข้าการเจรจากับผู้ให้บริการวางระบบสมาร์ทซิตี้ที่มีชื่อเสียงในระดับโลกแล้ว 2 ราย อีกทั้งได้เข้าการหารือกับทางสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินงานและการสนับสนุนจากภาครัฐ และในเร็วๆ นี้ จะเข้าหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อขอรับการสนับสนุนในด้านภาษีและการลงทุนด้วย
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ ที่ www.quintillionburgh.com และรับชมวิดีโอแนวคิด "QUiNTILLION BURGH : a part of eternity" ได้ทาง https://youtu.be/OxWCCwk41qg
และติดตามความเคลื่อนไหวของควินท์ คอยน์ ได้ที่ https://getqtl.com/ หรือTelegram : https://goo.gl/uควินทิลเลียน เบิร์ก เดินหน้าวางระบบสมาร์ทซิตี้ หลัง ควินท์ คอยน์ กวาดยอด ICO กว่า 661 ล้านบาทNdfCf