กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--
บอร์ดบมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี หรือ AJA ไฟเขียวจัดตั้งบริษัทย่อย "บริษัท ยูไท กรุ๊ป จำกัด" ลุยส่งออกสินค้าไทยไปจีนคาดจัดตั้งและเริ่มดำเนินธุรกิจได้ใน Q3/61 หวังช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกลุ่มบริษัท เป็นการบริหารความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ ไม่ต้องพึ่งพาธุรกิจหลักมากเกินไป
ดร.อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AJA) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติให้บริษัทลงทุนในธุรกิจใหม่ ในบริษัทย่อยที่จัดตั้งใหม่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ชื่อบริษัทที่จัดตั้งใหม่ คือ บริษัท ยูไท กรุ๊ป จำกัด ( Youtai Group Co., Ltd : "YTG") เพื่อประกอบธุรกิจการส่งออกสินค้าสินค้าไทยไปจำหน่ายในประเทศจีน มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท โดยคาดว่าจะสามารถจัดตั้งและเริ่มดำเนินธุรกิจได้ภายในไตรมาส 3 ปี 2561
ทั้งนี้ AJA ได้เข้าถือหุ้นจำนวน 255,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เป็นจำนวนเงิน 25.50 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน ส่วนที่เหลือถือโดยนางสาวพราว ลิ่มพงศ์พันธุ์ ร้อยละ 24.50 และนายภาคย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ร้อยละ 24.50
ดร.อมร กล่าวอีกว่า การลงทุนในธุรกิจใหม่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกลุ่มบริษัท และเป็นการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาธุรกิจหลักของบริษัท โดยบริษัทจะใช้แหล่งเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทในการเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ดังกล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AJA กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการในปีนี้น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯได้กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก โดยการขยายไลน์ไปในธุรกิจต่างๆ ดังนี้ คือเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle)" ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทย่อย คือ "ไรเซน เอนเนอร์จี" ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle)" โดย AJA ถือหุ้น 45% ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินโครงการแท็กซี่ วีไอพี ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ BYD e6 จำนวน 1,000 คัน ของกรมขนส่งทางบก โดยเตรียมส่งมอบรถจำนวน 100 คัน ภายในเดือนหน้า
"ตามนโยบายการดำเนินธุรกิจ AJA ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะขยายการลงทุน และมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อสร้างการเติบโตและเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทให้มั่นคง และยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพึงธุรกิจหลักของบริษัทฯ ซึ่งมั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในอนาคตอย่างแน่นอน" ดร.อมร กล่าวในที่สุด