กรุงเทพฯ--27 มิ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ 22 องค์กรพันธมิตร เปิดโครงการ "Care the Bear: Change the Climate Change by Eco Event" ส่งเสริม บจ. ลดปัญหาโลกร้อนด้วยการลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จากการจัดกิจกรรมหรืออีเว้นท์ (Eco Event) สอดรับ Sustainable Development Goals (SDGs) ข้อที่ 13 "Climate Action" โดยจะขยายไปสู่พันธมิตรในวงกว้าง คาดลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกป่า 2,000 ไร่
ดร. กฤษฎา เสกตระกูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานพัฒนาความรู้ตลาดทุน และหัวหน้าสายงานพัฒนาธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันภาคธุรกิจและภาคสังคมต่างเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลต่อการประกอบธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะสภาวะโลกร้อน ซึ่งประเทศไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 350 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี สูงเป็นอันดับ 21 ของโลก (ข้อมูลจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ปี 2556) โดยที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานโดยคำนึงถึง สิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental Social and Governance หรือ ESG) จึงริเริ่มโครงการ "Care the Bear: Change the Climate Change by Eco Event" ร่วมกับ 22 องค์กรพันธมิตร เพื่อส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนลดปัญหาโลกร้อนด้วยการจัด Eco Event เป็นการร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงในมิติของผู้บริโภคให้มีส่วนขับเคลื่อนการลดสภาวะโลกร้อน สอดรับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ Sustainable Development Goals (SDGs) ข้อที่ 13 "Climate Action"
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำ Care the Bear: Eco Event Kit สำหรับเป็นคู่มือการจัดกิจกรรมหรืออีเว้นท์ และการคำนวณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยมีองค์ประกอบ 6 เรื่อง ได้แก่
1. รณรงค์ให้เดินทางโดยรถสาธารณะหรือเดินทางมาร่วมกัน
2. ลดการใช้กระดาษและพลาสติก จากเอกสารต่างๆ และบรรจุภัณฑ์
3. งดการใช้โฟม จากบรรจุภัณฑ์ หรือโฟมเพื่อการตกแต่ง
4. ลดการใช้พลังงานจากอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเปลี่ยนไปใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน
5. ออกแบบโดยใช้วัสดุตกแต่งที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้
6. ลดขยะจากอาหารเหลือทิ้ง ในงานอีเว้นท์
"ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้เดินสายให้ความรู้แก่องค์กรพันธมิตรและบริษัทจดทะเบียนแล้วร่วม 20 บริษัท ในการนำไปปฏิบัติเพื่อผลลัพธ์ทั้งการลดโลกร้อน ลดค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้ ยังมุ่งขยายโครงการ "Care the Bear: Change the Climate Change by Eco Event" ไปสู่พันธมิตรภาคตลาดทุนในวงกว้าง และคาดว่าจะช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 2,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี หรือเทียบเท่าการปลูกป่า 2,000 ไร่ เพื่อดูดซับก๊าซเรือนกระจก สอดคล้องนโยบายรัฐที่เข้าร่วมเป็นภาคีความตกลงปารีส เมื่อปี 2559 โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 20-25% ภายในปี 2573 โครงการนี้จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นของภาคตลาดทุนในการมีส่วนร่วมลดโลกร้อน นอกเหนือจากกระบวนการผลิตและการบริหารจัดการองค์กร เพื่อร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม" ดร. กฤษฎากล่าว
ผู้สนใจสามารถเรียนรู้การจัด Eco Event พร้อมดาวน์โหลด Care the Bear: Eco Event Kit ได้ที่ www.setsocialimpact.com หรือสอบถาม SET Contact Center 0 2009 9999