กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--
ผู้ถือหุ้น บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) พร้อมใจรับมติ บริษัทย่อย "กันกุล พาวเวอร์ ดี เวลลอปเม้นท์ (GPD) " ซื้อหุ้น "ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล" ต่อยอดงานรับเหมาก่อสร้าง เสริมฐานธุรกิจให้แข็งแกร่ง "โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์" เผยการลงทุนในครั้งนี้ เพื่อขยายฐานธุรกิจส่วนงานก่อสร้างในอนาคตที่ยังสดใส รับอานิสงส์ภาครัฐทุ่มงบลงทุนก่อสร้างมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ( GUNKUL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2561 มีมติอนุมัติให้ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดี เวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) จำนวน 10,000,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้น 100% ของทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว รวม 10,000,000 หุ้น จากกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน (ผู้ขาย) เพื่อประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระบบไฟฟ้า แบบเหนือดิน เคเบิ้ลใต้ดิน และสถานีไฟฟ้า ซึ่งรายการดังกล่าวได้กำหนดมูลค่าในการจ่ายชำระราคาจากการเข้าทำรายการจำนวน 650,000,000 บาท พร้อมแต่งตั้งให้ บริษัทหลักทรัพย์ ไอ วี โกลบอล จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเพื่อศึกษาและให้ความเห็นในการเข้าทำรายการซื้อหุ้น FEC
สำหรับประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการลงทุนที่สร้างโอกาสในการขยายกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้างของ GUNKUL ให้ครอบคุลมถึงงานระบบไฟฟ้า สายส่งแบบเหนือดิน เคเบิ้ลใต้ดิน และสถานีไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในช่วงการเติบโตได้ทันทีแล้ว ยังสามารถเพิ่มความหลากหลายและแหล่งที่มาของรายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับพลังงานได้ครบวงจร ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงของกลุ่มธุรกิจเดิม โดย FEC นั้นมีสัญญาที่ลงนามแล้วและอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน อีกทั้งยังถือเป็นบริษัทที่มีความพร้อมด้านผลงานและบุคลากร สำหรับธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระบบไฟฟ้า จึงถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่สามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระบบไฟฟ้าได้ทันที อันเป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น คาดว่าการเข้าทำรายการจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2561
"การลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตทั้งทรัพย์สิน ผลกำไร และกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญถือเป็นการกระจายความเสี่ยงของรายได้ของบริษัทฯ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นในระยะยาว การเข้าทำรายการดังกล่าว ถือเป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมืองานก่อสร้างจากรัฐบาล ซึ่งได้อนุมัติงบประมาณในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2559 – 2566 คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 แสนล้านบาท จึงมองว่าเป็นโอกาสของกลุ่มบริษัทฯ ในการเข้าร่วมประมูลงาน โดยบริษัทยังคงเดินหน้าต่อไปในการมองหาโอกาสทางธุรกิจ เพื่อต่อยอดรายได้และสร้างฐานธุรกิจของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่งและมั่นคงต่อไปในอนาคต" นางสาวโศภชากล่าวในที่สุด