กรุงเทพฯ--28 มิ.ย.--วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส
สภาวะตลาดวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,248.47-1,254.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,650 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ18 อยู่ที่ 19,760 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 80 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,840 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.31 น. ของวันที่ 28/06/61)
แนวโน้มวันที่ 29 มิถุนายน 2561
ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐระบุว่า จะใช้คณะกรรมการทบทวนด้านความมั่นคงแห่งชาติที่เข้มงวดขึ้นในการจัดการกับความเป็นไปได้ของภัยคุกคามจากการเสนอซื้อกิจการด้านเทคโนโลยีสหรัฐของจีน แทนการกำหนดข้อจำกัดเจาะจงต่อจีน ความรุนแรงทางการค้าที่ลดลงกระตุ้นดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น จนสามารถทรงตัวเหนือโซน 95.00 ได้ ซึ่งดัชนีเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 95.529 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2560 นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับความซับซ้อนทางการเมืองในเยอรมนี ถ่วงสกุลเงินยูโรให้อ่อนค่าลง จนกดดันราคาทองคำเพิ่มเติม เมื่อรัฐบาลผสมที่เปราะบางของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เผชิญความเป็นไปได้ที่จะล่มสลายลง เมื่อพรรค Christian Social Union (CSU) ซึ่งเป็นพันธมิตรจากรัฐบาวาเรีย ได้ขู่ที่จะท้าทายเธอ และจะบังคับใช้การควบคุมชายแดน ถ้าข้อเรียกร้องของพวกเขาให้ลดภาระของเยอรมนีด้านการอพยพเข้าประเทศ ไม่ได้การตอบสนอง ทั้งนี้ การประชุมสุดยอดสภายุโรป นางแมร์เคิลจะพยายามทำข้อตกลงเกี่ยวกับการอพยพเข้าประเทศในระดับทวีป เพื่อสร้างความพอใจให้กับพรรค CSU แต่นักลงทุนประเมินว่า มีความเป็นไปได้ว่านางแมร์เคิลจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และยูโรมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อไป ทั้งนี้ ในช่วงวันพฤหัสบดีถึงศุกร์ จะมีการประชุมสุดยอดสภายุโรป มีประเด็นสำคัญสองประเด็น คือ การเจรจา Brexit และ การปฏิรูปเขตยูโรซึ่งกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับผู้อพยพ อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำในประเทศได้แรงหนุน ค่าเงินบาทที่เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบกว้างขึ้น ระหว่างวันเปลี่ยนแปลง 0.10 - 0.20 บาทต่อดอลลาร์ แต่โดยภาพรวมแนวโน้มบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าต่อ จากปัญหาเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้าและเงินทุนไหลออก ขณะที่ในตลาดโลกยังเห็นแรงขายดอลลาร์ ในระยะสั้น หากราคาทดสอบแนวต้าน 1,263-1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,242-1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ราคาทองคำยังมีโอกาสดีดตัวขึ้นอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้น โดยรอขายเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้านที่ 1,263-1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้แบ่งซื้อคืนเพื่อทำกำไรเมื่อราคาอ่อนตัวลง โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในทิศทางขาลง โดยหากไม่สามารถทรงตัวรักษาระดับไว้ จะทำให้ราคาอ่อนตัวลงต่อในระยะสั้นนี้ แต่หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง อาจเกิดการดีดตัวขึ้นในระยะสั้น และนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาดีดตัวขึ้นแรงผ่านบริเวณแนวต้าน 1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่ไม่มีทองคำในมือ หากรับความเสี่ยงได้อาจเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,234 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,242 (19,400บาท) 1,234 (19,300บาท) 1,222 (19,100บาท)
แนวต้าน 1,267 (19,850บาท) 1,276 (20,000บาท) 1,284 (20,100บาท)
GOLD FUTURES (GFQ18)
แนวรับ 1,242 (19,630บาท) 1,234 (19,510บาท) 1,222 (19,320บาท)
แนวต้าน 1,267 (20,030บาท) 1,276 (20,170บาท) 1,284 (20,300บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999