ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศแก่หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัท อาร์ ซี เอล จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘BBB+(tha)’

ข่าวทั่วไป Friday December 7, 2007 17:42 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ธ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-term Rating) แก่หุ้นกู้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิ ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2552 ของบริษัท อาร์ ซี เอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL ที่ระดับ ‘BBB+(tha)’ แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเป็นผู้นำในธุรกิจบริการขนส่งตู้สินค้าทางเรือในภูมิภาคของ RCL โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากเครือข่ายธุรกิจที่กว้างขวางในภูมิภาคเอเชีย กองเรือขนาดใหญ่ที่มีอายุค่อนข้างน้อย และความถี่ของตารางการเดินเรือ นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการบริหารจัดการกระแสเงินสดของบริษัทตามวัฏจักรธุรกิจที่ค่อนข้างดี โดยบริษัทได้พิจารณาถึงความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานควบคู่ไปกับแผนการลงทุน โดยภายหลังการขยายกองเรืออย่างรวดเร็วในปี 2547 ถึง 2548 เมื่อวัฏจักรของธุรกิจเดินเรืออยู่ในช่วงขาขึ้น บริษัทได้ชะลอแผนการลงทุนลงและทยอยลดระดับหนี้สินรวมลงมาอยู่ที่ 7.5 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 จาก 8.8 พันล้านบาท ณ สิ้นปี 2549 และ 1.1 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2548 นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของแผนการลงทุนที่คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.0 หมื่นล้านบาท ในช่วงปี 2550 ถึง 2554 น่าจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Net Debt/ EBITDA) และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (Adjusted Net Debt/ EBITDAR) ของบริษัทคงอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปัจจุบันซึ่งต่ำกว่า 2.0 เท่า และ 5.0 เท่า ตามลำดับ จนถึงสิ้นปี 2551 และทยอยปรับลดลงหลังจากนั้น
ถึงแม้ RCL จะมีระดับหนี้สินที่มีหลักประกันอยู่ในระดับค่อนข้างสูงที่ 74% ของหนี้สินรวม หรือ 22% ของสินทรัพย์รวม หรือ 1.5 เท่าของกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย ย้อนหลัง 12 เดือน (Last-12-month EBITDA) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2550 แต่แนวโน้มอัตราการรับชำระหนี้คืน (Recovery Prospects) ของหนี้ไม่มีหลักประกันและไม่ด้อยสิทธิของบริษัทได้ปรับเพิ่มขึ้นมากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราส่วนมูลค่าตามบัญชีสุทธิของสินทรัพย์ถาวรต่อหนี้สินที่มีหลักประกัน (Net Book Value of Fixed Assets/ Secured Debt) ของ RCL อยู่ในระดับที่สูงที่ 3.7 เท่า นอกจากนั้น เงื่อนไขของหุ้นกู้ที่ห้ามนำเรือเดินทะเลบางส่วนไปก่อภาระผูกพันใหม่น่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีหลักประกันได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ฟิทช์กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของระดับหนี้สินที่มีหลักประกันเมื่อเทียบกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานและสินทรัพย์รวมที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบในทางลบต่ออันดับเครดิตได้
ความแข็งแกร่งของอันดับเครดิตถูกลดทอนลงด้วยลักษณะที่เป็นวัฏจักรของธุรกิจเดินเรือ และความผันผวนของอัตราค่าระวางเรือ อย่างไรก็ตาม การผสมผสานระหว่างธุรกิจ Shipper Owned Container (SOC) และ Carrier Owned Container (COC) น่าจะช่วย RCL ลดทอนความเสี่ยงจากความผันผวนของปริมาณความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือทั่วโลกได้บ้าง นอกจากนี้ ปริมาณการสั่งต่อเรือขนส่งตู้สินค้าใหม่ที่อยู่ในระดับสูงน่าจะส่งผลให้ผู้ให้บริการขนส่งตู้สินค้าทางเรือประสบกับความเสี่ยงจากการที่มีอุปทานเกินกว่าความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือ อย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตของกำลังการขนส่งของกองเรือสุทธิที่พิจารณารวมถึงความหนาแน่นของเมืองท่าหลัก ความเร็วของการเดินเรือที่ไม่แน่นอน รวมถึงการใช้ตู้สินค้าขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานที่เพิ่มมากขึ้น (Effective Capacity Growth Rate) น่าจะอยู่ที่ประมาณ 11% ถึง 12% ต่อปี ในช่วงระหว่างปี 2550 และปี 2552 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มอัตราการเติบโตของความต้องการขนส่งสินค้าทางทะเล นอกจากนี้ ประมาณ 75% ของยอดการสั่งต่อเรือขนส่งตู้สินค้าใหม่เป็นการสั่งต่อเรือขนาดใหญ่ที่มีระวางเรือตั้งแต่ 4,000 ทีอียูขึ้นไป ในขณะที่ RCL ประกอบธุรกิจขนส่งตู้สินค้าทางเรือขนาดเล็กที่มีระวางเรือต่ำกว่า 3,000 ทีอียูเป็นหลัก ปัจจัยความเสี่ยงอื่นยังรวมถึงราคาน้ำมันที่คงอยู่ในระดับสูง ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการทำกำไรของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งตู้สินค้าทางเรือ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวได้ถูกลดทอนลงด้วยการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมราคาน้ำมัน (Bunker Surcharges) ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถส่งผ่านราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นได้บางส่วน และ RCL ยังพยายามที่จะเพิ่มประสิทธิภาพอัตราการจัดสรรกำลังลำเลียงของกองเรือให้สูงที่สุดเพื่อลดต้นทุนการดำเนินงานต่อทีอียูลง
ติดต่อ
โสมสิริ ชฎาวัฒน์ +662 655 4753, เลิศชัย กอเจริญรัตรกุล +662 655 4760, Vincent Milton +662 655 4759

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ