กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
-ปรับแผนใช้เงินลงทุนดันกำลังผลิตเพิ่มอีก 80,000 ตัน
"บุญชัย จิระพงษ์ตระกูล" ประเมินอัตรการเติบโตในปี 2551 ขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% เหตุธุรกิจยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง และราคาเหล็กยังทรงตัวในระดับสูงซึ่งมีแนวโน้มจะไต่ระดับขึ้นต่อได้อีก และปีหน้าคาดว่ากำลังการผลิตใหม่จะเพิ่มขึ้นอีก 80,000 ตันต่อปีหลังปรับวัตถุประสงค์การใช้เงินใหม่ ขณะเดียวกันจากความชัดเจนทางการเมืองช่วยเรียกความเชื่อมั่นกลับมา อีกทั้งภาครัฐยังสนับสนุนโครงการเมกะโปรเจ็กช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศขยายตัว
นายบุญชัย จิระพงษ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยง้วนเมทัล จำกัด (มหาชน) (TYM) เปิดเผยถึงการดำเนินธุรกิจในปีหน้าคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวจากปี 2550 ไม่ต่ำกว่า 20% โดยได้รับแรงสนับสนุนมาจากหลายๆ ส่วนด้วยกัน ทั้งแนวโน้มของธุรกิจที่ยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง ประกอบกับราคาขายเหล็กในปัจจุบันยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มว่าจะปรับตัวขึ้นไปได้อีก เนื่องจากราคาวัตถุดิบในตลาดโลกมีการปรับเพิ่มขึ้นมากและความต้องการเหล็กในตลาดโลกก็ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ในปี 2551 บริษัทฯจะมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 80,000 ตันต่อปี หลังจากที่ได้ปรับวัตถุประสงค์การใช้เงินใหม่ (จากแผนเดิมที่จะทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 50,000 ตันต่อปี) โดยบริษัทวางแผนจะซื้อเครื่องตัดเหล็กแผ่นบาง 2 เครื่องและเครื่องตัดเหล็กแผ่นหนา จำนวน 1 เครื่อง และเครื่องสลิต จำนวน 1 เครื่อง เนื่องจากปัจจุบัน เครื่องตัดเหล็กแผ่นที่มีอยู่ ซึ่งใช้อัตราการใช้กำลังการผลิตเต็มที่ ทำให้ผลิตสินค้าได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการเหล็กแผ่นจากลูกค้า อีกทั้งในปัจจุบันมี ผู้ผลิตรายใหญ่ทำธุรกิจผลิตท่อเหล็กโดยตรง ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของทั้งตลาดได้ และบริษัทได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนการจำหน่ายท่อเหล็กจากผู้ผลิตรายใหญ่ ดังกล่าว และ TYM ยังมีเงินลงทุนเหลือ 20 ล้านบาท จะเก็บนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
"ของเดิมที่วางไว้ก็คือสร้างโรงงาน 2 หลัง ประมาณ 3600 ตารางเมตร ซึ่งโรงงานขนาดเท่าเดิมเหมือนเดิมหมดทุกอย่างใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท ตรงนี้ก็ยังเหมือนเดิม แต่ที่จะเปลี่ยนเแปลงเป็นข้างในทั้งหมด เดิมคิดว่าจะตั้งสลิต 2 เครื่องและทำท่ออีก 2 เครื่อง กำลังการผลิตประมาณ 50,000 ตันต่อปี แต่ตอนนี้เรื่องการผลิตท่อมีรายใหญ่คือกลุ่มสหวิริยาฯ เข้ามาทำ มีการติดตั้งเครื่องทำท่อประมาณ 50-60 เครื่อง และ TYM ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่าย ดังนั้นเราคิดว่าไม่จำเป็นต้องผลิตเองแล้ว เนื่องจากทางสหวิริยาฯ สามารถซัพพลายสินค้าให้ TYM ได้ และพิสูจน์ว่าสามารถผลิตท่อได้ในราคาถูกกว่าที่ TYM ทำเอง จึงตัดสินใจว่าไม่ผลิตท่อแข่งดีกว่า"
และจากเหตุผลดังกล่าว ทำให้ TYM ต้องปรับแผนใหม่ โดยเครื่องจักรที่จะซื้ออยู่ระหว่างการคัดเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และคาดว่าจะสามารถนำเข้า ติดตั้งและเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2/2551 โดยเครื่องจักรใหม่จะมีศักยภาพสูงกว่าของเดิมมากและจะทำให้มีกำลังการผลิตสูงขึ้นด้วย
เขากล่าวต่อในช่วงท้ายว่า นอกเหนือจากแนวโน้มธุรกิจ,ราคาเหล็กที่ยังเป็นขาขึ้น และกำลังการผลิตที่จะเพิ่มขึ้นในปี 2551 แล้ว ในส่วนของความชัดเจนทางการเมืองภายหลังการเลือกตั้งก็ถือเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่ดึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับมาได้ ขณะเดียวกันภาครัฐบาลก็มีความชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายสนับสนุนให้เกิดโครงการเมกะโปรเจ็ก ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวและให้กลับมาคึกคักอีกครั้งด้วย
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : คุณณัฐณิชา ศรีสม โทร. 087-8778989 / 02-5549396