กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--เมืองไทยประกันชีวิต
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างเหมาะสมและเข้าถึงไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือกับ HUBBA ซึ่งเป็นผู้นำ Entrepreneur Growth Platform และเป็น Co-Working Space แห่งแรกในประเทศไทย เปิดตัวโครงการ "MTL 4Startup" กรมธรรม์ประกันกลุ่มสำหรับลูกค้ากลุ่มสตาร์ทอัพ ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของธุรกิจประกันชีวิตในประเทศไทยที่มีการให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าในกลุ่มสตาร์ทอัพ
โดยโครงการ "MTL 4Startup" สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ 2 แผนตามความเหมาะสม ให้ความคุ้มครองทั้งด้านประกันชีวิตและสุขภาพ รวมถึงประกันอุบัติเหตุ โดยให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก และรับความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุเพิ่มสูงสุดถึง 500,000 บาท* ทั้งยังมีค่าชดเชยการรักษาพยาบาลสูงสุด 50,000 บาท*ต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง นอกจากนี้ยังให้ความคุ้มครองด้านสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน
สำหรับสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว ลูกค้าจะต้องเป็นกลุ่มสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกผู้เช่า Co-Working Space ของ HUBBA ทั้งแบบรายบุคคลและผู้เช่าสำนักงาน (Private Office) ที่มีระยะเวลาการเช่ามากกว่า 1 ปีขึ้นไป เป็นบุคคลธรรมดามีอายุระหว่าง 15-65 ปี และจะต้องมีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเตรียมที่จะขยายสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการ "MTL 4Startup" ไปยังสตาร์ทอัพกลุ่มอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคตอีกด้วย
"การเกิดขึ้นของโครงการ MTL 4Startup ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความุ่งมั่นในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกกลุ่มอย่างแท้จริง โดยเรามองว่ากลุ่มสตาร์ทอัพถือเป็นกลุ่มคนที่กำลังเติบโตและเป็นแรงสำคัญในการพัฒนาประเทศในหลายๆ ด้านในอนาคต แต่กลุ่มคนเหล่านี้ยังมีข้อจำกัดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเงินทุน ขนาด หรือจำนวนคน ที่ทำให้ยังไม่สามารถเข้าเรื่องของประกันในรูปแบบต่างๆ ได้ เราจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันกลุ่มสำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพขึ้นมา โดยร่วมมือกับ HUBBA ซึ่งเป็น Co-Working Space แห่งแรกในประเทศไทย ดำเนินกิจการในไทยมาแล้วเป็นเวลา 6 ปี มีสาขา 4 แห่ง ประกอบด้วย DISCOVERY HUBBA (ตั้งอยู่ที่Siam Discovery), HUBBA Ekamai (Ekamai soi 4), HUBBA-TO (Habito Mall), HUBBA Silom (Silom Comple,19th floor), HUBBA Phuket และมีสมาชิกทั้งที่เป็นผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพจำนวน 20,000 ราย เราหวังว่าการเปิดตัวโครงนี้จะเป็นส่วนช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับสตาร์ทอัพในประเทศไทยจากความคุ้มครองที่ได้รับในครั้งนี้ " นายสาระ กล่าว
โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1766 เมืองไทย Smile ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.muangthai.co.th
หมายเหตุ : * สำหรับแผน 2
- เงื่อนไขและข้อยกเว้นเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์
- ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง