กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--ซีพีเอฟ
บุนลด หลวงบันดิดในวัย 50 ปี มองอาชีพที่ตนเองทำอยู่คือการเป็นนักวิชาการประจำโรงเลื่อย ในเมืองสีโคตตะบอง แขวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อาชีพที่ต้องเดินทางออกไปนอกพื้นที่ ต่างแขวง ต่างเมือง เพื่อติดตามตรวจสอบคุณภาพไม้ตามโรงเลื่อยต่างๆ ด้วยลักษณะงานที่ต้องเดินทางเป็นประจำทุกวันเพื่อตรวจงานให้แล้วเสร็จ ทำให้บางเดือนแทบจะไม่ได้กลับบ้าน ไม่ได้อยู่กับครอบครัว ใจหนึ่งก็พะวงว่าคนที่บ้านจะอยู่อย่างไรเมื่อไม่มีหัวหน้าครอบครัวอย่างเขาคอยดูแล ภรรยาที่ค้าขายผ้าอยู่ที่บ้านกิจการก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อครอบครัวที่เขารัก
"ทำงานอยู่โรงเลื่อยมาหลายสิบปี ต้องรอนแรมห่างบ้านมาตลอด แต่เราก็เลือกไม่ได้เพราะนี่คือรายได้หลักของครอบครัว แต่เมื่ออายุมากขึ้น ลูกๆก็เริ่มโตขึ้น แต่เรากลับไม่ค่อยได้ใช้เวลากับพวกเขาจึงมาคิดหาอาชีพใหม่ที่ลงทุนไม่มาก ได้ใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน และภรรยาก็สามารถดูแลกิจการได้ จนพบว่าซี.พี.ลาวมีโครงการธุรกิจห้าดาว ที่สามารถเปิดขายได้ที่บ้านซึ่งตรงกับสิ่งที่เราต้องการพอดีจึงเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้ โดยมีกำไรประมาณเดือนละ 20,000 บาท หลังจากนั้นทีมงานของซี.พี.ได้แนะนำโครงการตู้หมูชมชน ทำให้เห็นโอกาสการขยายธุรกิจให้เติบโตและมีความมั่นคง จึงตัดสินใจลาออกจากงานเดิมมาขายหมูเต็มตัว" บุนลด บอกถึงที่มาของอาชีพ
"ร้านบุนลด" เถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชน-CP Pork Shop จึงได้เริ่มต้นการขายเนื้อหมูในเขตชุมชนบ้านหนองบัวทอง เมืองสีโคตตะบอง แขวง เวียงจันทร์ มาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2560 โดยบุนลดลงทุนปรับปรุงพื้นที่หน้าบ้าน ซึ่งมีทำเลอยู่หน้าตลาดหนองบัวทอง ที่เป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีประชาการอาศัยอยู่หนาแน่น ทำให้มีโอกาสทางการตลาด โดยพนักงานซี.พี.ลาว เข้ามาช่วยปรับปรุงร้านให้ได้มาตรฐาน พร้อมให้คำแนะนำทั้งด้านธุรกิจและการออกแบบร้าน พร้อมจัดอุปกรณ์สำหรับการจำหน่ายสินค้าที่เป็นมาตรฐานของบริษัท ซึ่งออกแบบมาเพื่อจำหน่ายสินค้าที่เน้นความสดสะอาด ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพที่ดีของสินค้าและเชื่อมั่นว่าจะได้บริโภคผลิตภัณฑ์ที่สะอาดปลอดภัย
"หลังจากเริ่มทำธุรกิจตู้หมูชุมชนก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้าเพราะความมั่นใจในสินค้าของซี.พี. อยู่แล้ว บวกกับความแปลกใหม่ ทั้งรูปแบบร้านและผลิตภัณฑ์ที่เจาะจงว่าต้องแช่เย็นในตู้แช่ตลอดเวลา มีการแบ่งสัดส่วนในการแช่ผลิตภัณฑ์ต้องไม่ปะปนกัน แยกชั้นเหนื้อหมู เครื่องในชัดเจน ทำให้มีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยอดขายก็เพิ่มตามไปด้วย ธุรกิจจึงดำเนินไปได้อย่างเข้มแข็ง ผมภูมิใจที่ได้เป็นส่วนเชื่อมต่อให้ผู้บริโภคในชุมชนได้รับประทานอาหารปลอดภัย ช่วยอำนวยความสะดวกให้คนในชุมชนได้ซื้อสินค้าไกล้บ้าน ขณะที่ตัวผมเองที่เป็นเถ้าแก่เล็กก็มีธุรกิจส่วนตัว มีรายได้เพิ่ม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน และยังมีเวลาให้กับครอบครัวมากขึ้น" บุนลด บอกอย่างมั่นใจ
เมื่อถามถึงอนาคตสำหรับกิจการเถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชน บุนลด บอกว่าจากปัจจุบันที่การขายหมูที่สร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 600,000 กีบ ทำให้ในแต่ละเดือนมีรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจากการเป็นเถ้าแก่เล็กห้าดาวและเถ้าแก่เล็กเนื้อหมูตู้เย็นชุมชนไม่ต่ำกว่า 40,000 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่สูงเมื่อเทียบกับการประกอบอาชีพอื่น ดังนั้นหากมีโอกาสก็อยากจะขยายธุรกิจออกไปอีก โดยเริ่มจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทในลักษณะค้าส่งก่อน จากนั้นจะต่อยอดให้น้องสาวมาฝึกบริหารร้าน เป็นผู้ช่วยเรียนรู้ธุรกิจและหาทำเลเพื่อเปิดร้านใหม่เพิ่มขึ้น เพราะหวังให้อาชีพนี้เป็นธุรกิจส่วนตัวที่ช่วยสร้างรายได้ที่มั่นคง สร้างคุณภาพชีวิตดีขึ้นให้กับครอบครัวและญาติๆได้ต่อไป และเขายังฝากถึงผู้ที่สนใจจะเป็นเถ้าแก่เล็กเช่นเดียวกับเขาว่า ควรมีความรู้ด้านบัญชี เป็นคนที่รักการขาย มีมนุษยสัมพันธ์ดี รักความสะอาด ขยันอดทน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับความสำเร็จที่เขาทำมาตลอด./