กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--เวิรฟ
เพราะพัฒนาการที่ดี เป็นพื้นฐานสำคัญสู่การเติบโตของเจ้าตัวน้อยอย่างสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 3 ปีแรก ที่พัฒนาการทั้งทางร่ายกายและสมองมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และเป็นครั้งแรกที่ผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม "โฟร์โมสต์" ได้จับมืออมรินทร์ เบบี้ แอนด์ คิดส์ และผู้เชี่ยวชาญชั้นนำ
ของเมืองไทย จัดกิจกรรมเสวนาเชิงปฏิบัติการ "พบผู้เชี่ยวชาญ เสริมพัฒนาการให้ตรงจุด" เพื่อเตรียมความพร้อม และแนะเทคนิคดีๆ ให้กับคุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ในการเสริมสร้างพัฒนาการที่สมวัยให้กับลูกรักในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม ที่ส่งผลให้เด็กมีสมองดี เติบโตสมวัย และแข็งแรง คุณวิภาดา อัตศรัณย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟรีสแลนด์คัมพิน่า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "หนึ่งในหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจโฟร์โมสต์ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา คือ การส่งมอบโภชนาการที่ดีให้กับผู้บริโภคคนไทยด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มยูเอชทีที่อุดมไปด้วยสารอาหารคุณภาพ ในราคาที่ผู้บริโภคเอื้อมถึง ควบคู่กับการจัดกิจกรรมที่สร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมให้ครอบครัวคนไทยมีสุขภาพที่แข็งแรงเต็มร้อย และเพื่อเป็นการตอกย้ำเจตนารมณ์ดังกล่าว "โฟร์โมสต์" จึงได้จัดงานเสวนาเชิงปฏิบัติการ "พบผู้เชี่ยวชาญ เสริมพัฒนาการให้ตรงจุด" โดยได้จับมือกับคุณหมอ นักวิชาการและนักโภชนาการชั้นนำของเมืองไทย เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเคล็ดลับการเลี้ยงดูลูกน้อยให้เติบโต และมีพัฒนาการที่สมวัยในทุกมิติ ตั้งแต่การเลือกโภชนาการที่ดี ตลอดจนการเสริมกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ เพราะโฟร์โมสต์ตระหนักดีว่า "พัฒนาการ" คือก้าวสำคัญสำหรับเด็กที่อยู่ในวัยเจริญเติบโตเพื่อการเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในอนาคต
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างโภชนาการที่ดีให้กับลูกน้อย "โฟร์โมสต์" จึงได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ถึง 2 ทางเลือก ทางเลือกแรก "นมโคแท้ 100%" (Foremost 100% Cow Milk) คุณภาพสูงมาตรฐานสากล ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการจากธรรมชาติ ทั้ง โปรตีน แคลเซียม โอเมก้า 369 และวิตามินบี 2, 5,12 ที่ทั้งหมดช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้านให้ลูกน้อยเติบโตสมวัย และอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านสมองอย่างเต็มขั้นกับ "นม โฟร์โมสต์ โอเมก้า โกลด์" (Foremost Omega Gold) ที่ชูจุดเด่นเรื่อง DHA ปริมาณสูงถึง 5 เท่า หรือ 11.25 มิลลิกรัม ซึ่งช่วยพัฒนาสมอง พร้อมอุดมไปด้วยโอเมก้า 369 วิตามินเอ ซี อี ดี และแคลเซียม ให้เจ้าตัวน้อยแข็งแรงสมวัย เพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ ให้ลูกน้อยก้าวไปได้ไกลอีกขึ้น" คุณวิภาดา กล่าว
เข้าใจกลไก "สมอง" เสริมพัฒนาการให้ตรงจุด
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช แนะนำว่า "ตั้งแต่แรกเกิด เซลล์สมองและเครือข่ายการทำงานนับแสนล้านเซลล์จะถูกสร้างขึ้นและพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกระทั่ง 2-3 ปีแรก และหลังจากนั้นจะพัฒนาได้ช้าลง ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญต่อเด็กที่จะเติบโตมามีศักยภาพที่แตกต่างกัน ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษทั้งในเรื่องของโภชนาการ ควบคู่กับการเสริมพัฒนาการผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เพราะตามกลไกทางธรรมชาติ เซลล์สมองของเด็กจะพัฒนาได้ดีเมื่อถูกกระตุ้นหรือใช้งานอย่างสม่ำเสมอ ในขณะที่เซลล์ที่ไม่ถูกใช้งานจะฝ่อลงและถูกทำลายไปในที่สุด โดยในช่วงขวบปีแรก คุณพ่อคุณแม่เสริมพัฒนาการผ่านการตอบสนองความต้องการของลูกอย่างเหมาะสม และเล่นกับลูกผ่านสิ่งแวดล้อมรอบตัว ในช่วงขวบปีที่ 2 เสริมพัฒนาการผ่านการช่วยเหลือตัวเอง ให้น้องๆ รับประทานอาหารเอง เดินเอง ช่วยเหลือตัวเองเท่าที่ทำได้ รวมถึงปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ผ่านกิจกรรมและการเล่น และช่วงขวบปีที่ 3 นอกจากการช่วยเหลือตัวเองแล้ว ควรให้เด็กได้มีโอกาสช่วยเหลือพ่อแม่ และการมีส่วนร่วมกับกิจวัตรประจำวันมากขึ้น ผมเชื่อว่าความฉลาดนอกจากจะส่งต่อผ่านทางพันธุกรรมแล้ว ยังสามารถส่งต่อผ่านกระบวนการใช้ชีวิตจากคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย"
ติวเข้มคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ กับเคล็ดลับ "เลี้ยงลูกเชิงบูรณาการ"
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วรวุฒิ เชยประเสริฐ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โรงพยาบาลเวชธานี และเจ้าของเพจ "เลี้ยงลูกตามใจหมอ" ให้คำแนะนำว่า "องค์ประกอบของการเลี้ยงลูกยุคใหม่ให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีพัฒนาการที่สมวัยนั้น ต้องอาศัย 3 ปัจจัยมาบูรณาการร่วมกัน เริ่มที่ปัจจัยแรก คือ "การเลี้ยงดูที่ดี" เสริมสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพที่ดีให้กับลูก รับวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์มาตรฐาน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ ต่อมาคือ พื้นฐานครอบครัวที่อบอุ่น พ่อแม่ควรมีเวลาให้กับลูกเสมอ ต้องเป็นผู้ให้ ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางการศึกษาให้เด็กได้มีโอกาสที่จะเลือกแนวทางของตัวเอง รวมไปถึงสนับสนุนให้ลูกได้ทำกิจกรรมตามความสนใจ และคอยแนะแนวทางในการทำกิจกรรมนั้นอย่างถูกวิธี แม้แต่กิจกรรมง่ายๆ อย่างการเล่นก่อกองทราย ก็ถือเป็นการส่งเสริมทั้งในด้านความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และมัดใหญ่ และปัจจัยสุดท้าย คือการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก เด็กๆ สามารถเรียนรู้การทำงานเป็นทีมกับคุณพ่อแม่ผ่านการเล่นก่อกองทรายได้อีกด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการร่วมกิจกรรมใดๆ กับลูก คุณพ่อคุณแม่ก็ควรแสดงให้เขาเห็นถึงความรักความอบอุ่น ความมีระเบียบวินัย สนับสนุนให้เขาได้เรียนรู้วิธีการตัดสินใจอย่างถูกวิธีด้วยตนเอง และพร้อมที่จะส่งเสริมให้เขาเจริญเติบโตได้อย่างดีเยี่ยมในอนาคตครับ"
ถอดรหัส "อัจฉริยภาพ" ของลูกน้อยที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุธาวัลย์ หาญขจรสุข นักวิชาการด้านพัฒนาการและการศึกษาเด็ก อาจารย์ประจำศูนย์พัฒนาอัจฉริยภาพเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวว่า "เด็กทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมกับอัจฉริยภาพเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นทักษะการคิดคำนวณ ด้านวิทยาศาสตร์ ภาษา กีฬา ดนตรี ซึ่งอาจจะมีมากน้อยแตกต่างกันไป โดยความสามารถพิเศษเหล่านี้เกิดมาจากความชอบและความสนใจส่วนตัวของเด็กแต่ละคน สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่อาจารย์อยากจะแนะนำคือ อยากให้คุณพ่อคุณแม่ใช้เวลาอยู่ร่วมกับลูกให้มาก หมั่นสังเกตพฤติกรรมของลูก อย่างเช่นในช่วงที่ลูกมีเวลาว่าง ลูกมักจะหยิบจับอะไรมาเล่นด้วยตนเอง หรือให้ความสนใจกับอะไรมากเป็นพิเศษ พร้อมทั้งปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำแบบทดสอบ วิเคราะห์ระดับอัจฉริยภาพในแต่ละด้านของเด็ก หากเราทราบถึงความสนใจและความถนัดของลูกตั้งแต่เล็กๆ คุณพ่อคุณแม่ก็จะสามารถสนับสนุนและ
ต่อยอดความสามารถของเขาให้ประสบความสำเร็จได้ อย่างไรก็ตามหากคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงความสนใจเฉพาะด้านของลูกแล้ว ก็ไม่ควรจะเน้นไปด้านนั้นเพียงอย่างเดียว ควรสนับสนุนกิจกรรมอื่นๆ อย่างน้อย 2-3 ด้าน เนื่องจากกิจกรรมในแต่ละด้านนั้นจะเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกัน มีความเชื่อมโยงกัน และสามารถนำความรู้มาบูรณาการใช้ร่วมกันต่อไปได้ในอนาคตค่ะ"
"โภชนาการ" รากฐานสู่พัฒนาการที่ดีของลูกน้อย
อาจารย์แววตา เอกชาวนา นักโภชนาการ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ นักกำหนดอาหารวิชาชีพ กล่าวว่า"ในช่วง 3 ปีแรกเป็นวัยที่สำคัญมาก เพราะสมองจะพัฒนาอย่างรวดเร็วแม้กระทั่งในขณะนอนหลับ เพราะฉะนั้นโภชนาการที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ เมื่ออายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เด็กต้องเริ่มรับประทานแบบผู้ใหญ่ คือต้องครบทั้ง 5 หมู่ทั้งข้าว ไข่ไก่ ปลาทะเล ผักผลไม้ต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม 3 มื้อต่อวัน เพื่อการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสมองอย่างสมวัย โดยที่มีคุณพ่อคุณแม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก และควรเสริมด้วยอาหารว่าง 2-3 มื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับนมพร้อมดื่ม เนื่องจากในนมอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อพัฒนาการทั้งทางร่างกายและสมอง ไม่ว่าจะเป็นกรดอะมิโนจำเป็น 9 ชนิด ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ ดีเอเชเอและโอเมก้า 369 แคลเซียม วิตามินดี โดยนมพร้อมดื่มในปัจจุบันได้ถูกพัฒนาและวิจัยให้มีความหลากหลาย สะดวก และในบางชนิดมีการเสริมสารอาหารต่างๆ อีกด้วย ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรอ่านฉลากโภชนาการให้เป็น เพื่อให้มั่นใจว่าลูกน้อยจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสม และควรหาเทคนิคผนวกกับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมในแต่ละมื้ออาหาร ซึ่งจะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกว่าการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นเรื่องที่สนุก"
พบกับสาระดีๆ เกี่ยวกับเคล็ดลับการเสริมสร้างพัฒนาการเจ้าตัวน้อยให้เติบโตสมวัย และสามารถติดตามข่าวสารของโฟร์โมสต์เพิ่มเติมได้ที่ www.foremostforlife.com หรือ www.foremostomega.com และ www.facebook.com/ForemostMomTalk