กรุงเทพฯ--5 ก.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
วันนี้ (5 กรกฎาคม 2561) ณ สถานีกรุงเทพ การรถไฟแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวการรับชำระเงินค่าตั๋วรถไฟด้วยคิวอาร์โค้ด (QR Code) ผ่านทางเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ ร่วมสร้าง "สังคมรถไฟยุคใหม่ ไม่ใช้เงินสด" เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ใช้บริการในยุค 4.0 โดยมี นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ และ นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ร่วมเป็นประธานในงานแถลงข่าว
นายวรวุฒิฯ กล่าวว่า การรถไฟฯ นำระบบการชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด ผ่านเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการรับชำระค่าตั๋วรถไฟ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ใช้บริการ รองรับสังคมไร้เงินสดและประเทศไทย 4.0 โดยในช่วงที่ผ่านมา การรถไฟฯ ได้ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย ดำเนินการติดตั้งเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ เพื่อรองรับการชำระค่าตั๋วโดยสารด้วยบัตรวีซ่า และมาสเตอร์การ์ด ในวันนี้นับว่าเป็นก้าวสำคัญของสังคมรถไฟยุคใหม่ ไม่ใช้เงินสด กับการรับชำระค่าตั๋วรถไฟด้วยคิวอาร์โค้ด โดยสแกนผ่าน Mobile Banking บนสมาร์ทโฟนทุกธนาคาร พร้อมใช้งานใน 56 สถานีหลัก จำนวน 140 เครื่อง เช่น สถานีกรุงเทพ เชียงใหม่ อุบลราชธานี หนองคาย ชุมทางหาดใหญ่ ชุมพร เป็นต้น โดยสถานีกรุงเทพมีการติดตั้งมากที่สุด จำนวน 14 เครื่อง ทั้งนี้ ในอนาคตจะมีการทยอยติดตั้งเครื่องรับบัตรอัตโนมัติเพิ่มเติม เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนที่มาใช้บริการให้ครอบคลุมและทั่วถึง
นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาธนาคารได้พัฒนาการใช้ QR Code เพื่อชำระค่าตั๋วให้กับระบบขนส่งมวลชนมาแล้วหลายรูปแบบ ทั้งเครื่องบิน เรือ และรถสาธารณะ ในส่วนของรถไฟก็เป็นระบบขนส่งมวลชนที่อยู่คู่คนไทยมานาน มีเอกลักษณ์สร้างประสบการณ์ในการเดินทางที่ไม่เหมือนใคร จึงมีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ทั้งคนไทยที่ใช้รถไฟเพื่อเดินทางในชีวิตประจำวันและเพื่อการท่องเที่ยว รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางด้วยรถไฟ ความร่วมมือในวันนี้รองรับไลฟ์สไตล์ของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไป จะช่วยให้ผู้โดยสารรถไฟไทยได้รับความสะดวกรวดเร็ว และช่วยสนับสนุนการสร้างประสบการณ์สังคมไร้เงินสดให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การชำระค่าตั๋วรถไฟด้วยคิวอาร์โค้ดยังช่วยลดต้นทุนการบริหารจัดการให้กับการรถไฟ และช่วยลดภาระของเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ อีกด้วย
ปัจจุบัน จำนวนผู้โดยสารรถไฟทั่วประเทศทั้งชาวไทยและต่างชาติมีประมาณ 2.4 ล้านคนต่อเดือน หรือราว 80,000 คนต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะหลังการก่อสร้างระบบขนส่งทางรางที่จะแล้วเสร็จในอนาคต ทั้งรถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นรถไฟที่มีความทันสมัยมากขึ้น ในปัจจุบันผู้โดยสารส่วนใหญ่ยังคงนิยมชำระค่าตั๋วรถไฟด้วยเงินสดกว่าร้อยละ 92 มีเพียง ร้อยละ 6 เท่านั้นที่ชำระด้วยบัตรเครดิต ดังนั้น รูปแบบของรถไฟที่ทันสมัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เริ่มคุ้นชินกับการชำระเงินด้วย QR Code จึงมีโอกาสขยายตัวเพิ่มขึ้น เพราะเป็นบริการที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค
นายวรวุฒิฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาการรถไฟฯ ได้มีการอบรม แนะนำวิธีการใช้ระบบชำระเงินด้วยคิวอาร์โค้ด ผ่านเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ ให้กับเจ้าหน้าประจำสถานีเรียบร้อยแล้ว เพื่ออำนวยความสะดวกที่ช่องจำหน่ายตั๋วของสถานี โดยผู้ใช้บริการสามารถร่วมสร้าง "สังคมรถไฟยุคใหม่ ไม่ใช้เงินสด" และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย