กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--
จากกรณีที่เกิดเหตุสลดใจ "จ่าเอกสมาน กุนัน" อดีตหน่วยซีล นักทำลายใต้น้ำจู่โจมนอกราชการ รับภารกิจให้ลำเลียงขวดอากาศจากโถงสาม ภายในถ้ำหลวงไปยังจุดต่างๆ บริเวณสามแยก ได้หมดสติในน้ำและเสียชีวิตลงเวลาประมาณ 01.00 น. ที่ผ่านมา ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 6 ก.ค. โดย "หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย" ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.30-14.10 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "นายแพทย์สุระ เจตน์วาที" แพทย์เวชศาสตร์การบิน ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้ชีพชั้นสูงและการลำเลียงผู้ป่วยทางอากาศและ "ทรงพล สุขสมบูรณ์" กู้ภัยอยุธยา รวมทั้งโฟนอินหา "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ถ้ำหลวง
มันเกิดอะไรขึ้น?
นพ.สุระ : "ผมคิดว่าโดยหลักการดำน้ำมีการบาดเจ็บในการดำน้ำเป็นเรื่องปกติ แต่ในกรณีนักดำน้ำระดับมืออาชีพ โอกาสเกิดเหมือนคนทั่วไปน้อยมาก ต้องมาคิดถึงหลายๆ อย่างที่เป็นองค์ประกอบโดยรอบมากกว่า การน็อกน้ำไม่น่าเกิดกับระดับมือโปร สิ่งที่ต้องมาคิดตอนนี้คือดำน้ำบ่อยไม่ได้พักผ่อน การทำให้ร่างกายขาดออกซิเจนง่ายๆ อีกส่วนคือต้องมองออากาศที่หายใจเข้าไป ในขวดอากาศมีสารปนเปื้อนหรือเปล่า ทำให้มีการหลับกลางน้ำได้เลยเหมือนกัน ตอนนี้น้ำมีลึกในบางจุด อาจจะถึง 7 เมตร แต่มีตื้นบ้าง ลึกบ้าง ระดับมือโปรเขาดำลึกกว่านี้เยอะ 7 เมตรไม่ใช่เรื่องใหญ่"
ประเด็นที่เป็นไปได้ มองว่ายังไง?
นพ.สุระ : "มันมีหลายอย่างที่ต้องนึกถึง เอาง่ายๆ น้ำตาลในเลือดต่ำก็ทำให้หมดสติได้แล้ว มีโรคประจำตัวอย่างอื่นหรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่นักประดาน้ำก็แข็งแรงมากอยู่แล้ว แต่ผมไม่เชื่อว่าจะเกิดกับซีลเพราะเขามีความชำนาญ เขามีสติพอ เราต้องระวังเรื่องของเด็กไม่ให้เกิดตกใจ แล้วพรวดขึ้นมาเหนือน้ำ แต่ซีลมีสติพอ ปกติเวลาดำไป ดำคู่ขนาน เขาจะมีระบบสำรองอากาศ สมมติอากาศผมหมด ผมจะขออากาศจากบัดดี้ผม ระบบแบบนี้เป็นระบบที่ใช้กัน ซีลเขาแม่นอยู่แล้ว เราก็คิดไว้ในใจก่อน คิดโรคหลายๆ อย่างแล้วค่อยมานั่งตัดทีละประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออก"
ต่างชาติพูดกันว่าดำน้ำในถ้ำหลวงตอนนี้ยากเหมือนปีนเขาเอเวอร์เรส?
นพ.สุระ : "มันมีความซับซ้อนขึ้นมาอีก เพราะเป็นการดำน้ำในที่สูง ครั้งหนึ่งผมเคยไปฝึกดำน้ำที่อิตาลี โดยพิกัดที่ดูความสูงถ้ำหลวงไม่ได้เยอะมาก เราก็คิดถึงน้อยแต่ก็เป็นไปได้ ต้องคิดถึงบ้าง แค่นั้นเอง สภาวะในน้ำแทบมองไม่เห็นเลย โอกาสชนกระแทก ก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องมอง แต่ไม่น่ารุนแรงจนเลือดออกสมองถึงขั้นหมดสติ แต่ก็คิดไว้ในรายการก่อน ค่อยมาตัดทีหลัง น็อกน้ำน้อยมากถ้าเป็นหน่วยซีล เคสนี้หินมาก"
คุณทรงพล สุขสมบูรณ์ เป็นอีกคนที่เข้าในถ้ำ เคยเจอท่านมั้ย?
ทรงพล : "เจอครับ ก็ตกใจกัน ตอนวางแผนก็มีจ่าสมานมาร่วมในการวางแผนเข้าไปด้านในด้วย ถ่ายภาพกับทีมงานตรงนั้นด้วยกันหมด เท่าที่สัมผัส แกอัธยาศัยดีมาก ยังคุยเล่นกันอยู่ว่าแกทำงานเต็มที่ ทำดีที่สุดแล้ว"
วันที่แกไปถึง แกเข้าๆ ออกๆ ตลอด?
ทรงพล : "ใช่ครับ ระยะทางจากถ้ำไปจุดเนินนมสาวประมาณ 1.5 กิโล ใช้เวลา 5 ชม. ดำน้ำล้วนๆ ผมว่าคนเข้าไปต้องเป็นคนแข็งแกร่ง เป็นหน่วยซีลเท่านั้น ทีมกู้ภัยเข้าไปจะอันตรายมากครับ"
เท่าที่สังเกตได้เจอกับทีมซีล คิดว่าจ่าเกิดอาการอะไรขึ้น?
ทรงพล : "ผมคิดวาน่าจะเกิดจากความเหนื่อยล้า เพราะท่านลำเลียงขวดอากาศเข้าไปข้างใน ใช้เวลาในการปฏิบัติงาน ผมเจอท่านตั้งแต่วันแรกๆ คิดว่าอาจจะอ่อนล้า แต่หน่วยซีลเขาถูกฝึกมาค่อนข้างแข็งแกร่งอยู่แล้ว เกิดจากอะไรผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ท่านเข้าๆ ออกๆ ตลอดเวลา"
หน่วยซีลเข้าออกลำบาก แล้วน้องๆ จะออกมาได้จริงๆ เหรอ?
ทรงพล : "ผมว่าถ้าออกมาในสถานการณ์แบบนี้มันอันตรายครับ"
มีการวางแผนกันหรือยังจะทำยังไงกันต่อไป?
ทรงพล : "ที่วางแผนไว้ หน่วยซีลลำเลียงขวดอากาศอาหารเข้าไปเพื่อมีทีมที่ไปอยู่กับน้องๆ ทุกอย่างให้ปลอดภัยที่สุด เพื่อนำน้องออกมา ตอนนี้อาหารทุกอย่าง ขวดอากาศลำเลียงไว้ตามจุดต่างๆ หมดแล้วต้องรอหัวหน้าหน่วยซีลประเมินสถานการณ์ว่าน้องจะปลอดภัยมั้ย ถ้าปลอดภัยคิดว่าก็คงออกมา"
คนที่เข้าไปสู่จุดเนินนมสาวมีกี่คน?
ทรงพล : "ผมว่าอยู่ที่ทางผอ.หน่วยว่าจะจัดใครเข้าไป ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเขา แต่คิดว่าศักยภาพของซีลทุกคน ปฏิบัติการได้ทุกคน"
หน่วยซีลที่เข้าไป ภารกิจที่สำคัญคืออะไรบ้าง?
ทรงพล : "โดยมากเป็นพวกยาเวชภัณฑ์ ส่วนใหญ่ลำเลียงขวดอากาศ และรอเวลาถ้าสามารถนำน้องออกมาได้ก็คงรีบดำเนินการ มีขวดอากาศวางไว้ทั้งในน้ำและบนถ้ำ หมดปุ๊บก็หยิบได้ เขาจะประเมินทุกอย่างเอาไว้หมด"
ต่างประเทศมีการประเมินว่าเป็นไปได้และมีโอกาสสูงที่น้องๆ ทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำได้คือ 4 เดือนต้องให้หมดหน้าฝน ต้องรอให้น้ำหมดก่อน แล้วเดินออกมาได้?
ทรงพล : "จากการที่ได้คุยกับหัวหน้าซีล ท่านแจ้งว่าอาจอยู่ประมาณ 40 วัน ของที่เอาเข้าไป ทุกอย่างที่เตรียมให้ แต่ถ้ายังมีปัจจัยเสี่ยงน้ำยังไม่ลดอาจต้องอยู่ต่อ อาหารลำเลียงเข้าไปตลอด"
นพ.สุระ : "ผมมองว่าเป็นไปได้ มันน่าจะนานหลายสัปดาห์แน่ๆ เข้ายากออกก็ยากเหมือนกัน ไม่ควรจะเสี่ยงแม้แต่เล็กน้อย อย่างที่เกิดเหตุที่คาดไม่ถึงแบบนี้ เราคิดว่าหน่วยซีลเป็นสุดยอดของประเทศแล้ว ก็ยังเกิดความผิดพลาดได้ แล้วการจะพาน้องซึ่งไม่มีทักษะออกมา ก็ไม่ควรจะทำในตอนที่ไม่มีความพร้อมเพียงพอ ไม่ปลอดภัยก็ไม่ควรทำ ตอนนี้อยู่ได้มั้ยก็อยู่ได้"
อาจเปลี่ยนแผนโดยใช้ปล่องด้านบน?
ทรงพล : "ตอนนี้ก็มีการสำรวจอยู่ เพราะน้องบอกได้ยินเสียงไก่ขัน ตอนนี้ทางหน่วยซีลสำรวจอยู่"
ตอนนี้ยืนยันว่าต้องออกทางเดิม?
ทรงพล : "ตอนนี้ในเบื้องต้นต้องยืนยันว่าต้องออกทางเดิมก่อน แต่รอเวลาที่เหมาะสมพอสมควร"
โฟนอินสัมภาษณ์บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์?
บิณฑ์ : "ตอนนี้ผมเพิ่งประชุมกับทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญูเสร็จ วันนี้ภารกิจคงหนัก เพราะต้องเข้าไปในโถง 2 อีกครั้ง ปัญหาหลักคือสายไฟต้องเดินสายไฟประมาณ 1500 เมตร เมื่อวานตีสามตีสี่ก็ยังทำงานกันอยู่ ตอนนี้กำลงเสริมอุปกรณ์เข้าไป มีเดินเท้าประมาณ 30-40 นายเดินไปบนภูเขาดอยผาหมี หาอุโมงค์ที่สามารถเอาตัวน้องออกจากทางปล่องได้ ทางน้ำก็ไม่ทิ้ง เอาน้ำออกให้เร็วที่สุด"
พอประเมินได้มั้ย อีกกี่สัปดาห์น้องออกมาได้?
บิณฑ์ : "ผมก็ยังไม่เห็นตัวน้อง แต่ด้วยความที่ผมเข้าไปในถ้ำแล้วโถงที่ 2 ผมบอกเลยตั้งแต่แรก ถ้าเอาน้องออกมาทางน้ำผมไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ลักษณะมวลน้ำมันเยอะ หน่วยซีลเรียน 7-8 เดือน เขาเรียนที 4-5 ชม. แล้วน้ำตรงนั้นจากโถงที่ 3 ถึงตัวน้อง น้ำปกติเหมือนเดิม ถ้าเอาน้องออกมาจากทางน้ำผมไม่เห็นด้วย ถ้าเอาออกมาต้องให้น้ำลดประมาณ 1 เมตร ซึ่ง 1 เมตร น้องใช้เสื้อชูชีพ ห่วงยาง ลอยออกมาก็โอเค ปลอดภัย ถ้าดำน้ำผมว่าต้องใช้เวลาสามอาทิตย์ถึง 1 เดือน แต่เมื่อเช้ามีข่าวบอกว่าจะเปลี่ยนแผนใหม่ ใช้เป็นท่อทะลุเข้าไปแล้วให้น้องออกมาทางจากท่อมีถังอากาศออกซิเจนตลอด เมื่อวานทดลองในสระน้ำแล้ว 5 นาทีคลานออกมาได้ 400 เมตร ถ้าน้องมาทางต่อนี้ได้ ไม่เกินอาทิตย์สองอาทิตย์ แต่ถ้าออกมาใช้หน้ากากใช้แมสผมไม่เห็นด้วย อันตรายมาก"
ฟังแล้วเหนื่อยใจมั้ย?
ทรงพล : "ยังมีความหวังครับ"