กรุงเทพฯ--11 ธ.ค.--บลจ.ทิสโก้
บลจ. ทิสโก้ กระตุ้นตลาด RMF โค้งสุดท้าย เตรียมเปิดขายกองทุน RMF เจ้าแรกในตลาดที่ออกไปลงทุนในตลาดหุ้นนอกประเทศ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ” ลงทุนในตลาดหุ้นจีน-อินเดีย หลังจากผลตอบรับของกอง FIF จีน-อินเดีย ที่เปิดขายก่อนหน้าดีเกินคาด ชูจุดเด่นนักลงทุนได้ ผลตอบแทนที่ดีพร้อมนำไปลดหย่อนภาษี เปิดจองครั้งแรกวันนี้ — 21 ธ.ค. 50
นายพิชา รัตนธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการลงทุน ธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล บลจ.ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทเตรียมเสนอขายครั้งแรก “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ” เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการนำไปหักลดหย่อนภาษี และการสร้างวินัยการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยกองทุนดังกล่าวจะเน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทชั้นนำในประเทศจีนและอินเดีย สองประเทศมหาอำนาจที่มีศักยภาพในการเติบโตและมีโอกาสในการทำกำไรในอนาคต
“สาเหตุที่ตัดสินใจออกกองทุนดังกล่าว เพราะเชื่อว่ายังมีนักลงทุนหลายรายที่ต้องการกองทุนที่นอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว ยังเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยหรือผลิตภัณฑ์การเงินในรูปแบบอื่นเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้จุดเด่นที่กองทุนนี้แตกต่างจากกองทุนอื่นๆ คือ ถือเป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) กองทุนแรกในตลาด ที่มีนโยบายลงทุนในประเทศจีนและอินเดีย ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเศรษฐกิจในทั้งสองประเทศ” นายพิชา กล่าว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ มีขนาดกองทุน 1,000 ล้านบาท เปิดจองซื้อครั้งแรกวันที่ 11-21 ธันวาคม 2550 เริ่มลงทุนเพียง 20,000 บาท ที่ราคา 10 บาทต่อหน่วย
นายพิชา กล่าวว่า สำหรับเหตุผลที่ บลจ. ทิสโก้ ยังคงเลือกลงทุนในประเทศจีนและอินเดียเป็นหลักอยู่นั้น เพราะยังคงเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจและการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง โดยจีนมีอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ย 9% ต่อปี ขณะที่อินเดียมีอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ย 8% ต่อปี และมีการคาดการณ์ว่าจีนและอินเดียจะมีขนาด GDP ใหญ่เป็นอันดับ 2 และ 7 ของโลก (ตามลำดับ) ภายในปี 2020 ซึ่งปัจจัยสำคัญ 2 ประการที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ การบริโภคภายในประเทศและการลงทุน จึงมีความเชื่อมั่นว่าการเติบโตของทั้งจีนและอินเดียเองยังมีช่องทางการขยายตัวได้อีกมากในอนาคต
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนรวมตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ประเภทกองทุนรวมหน่วยลงทุน (Fund of Funds) และมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded Fund) ในต่างประเทศ ที่เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งหรือประกอบธุรกิจในประเทศจีนและประเทศอินเดีย โดยมีการกระจายการลงทุนใน MSCI China Index 25%, Hang Seng China Enterprise Index 25% และ MSCI India Index 50%
“กองทุนดังกล่าวเหมาะกับผู้ที่ต้องการออมเงินไว้ใช้หลังเกษียณอายุ ในขณะเดียวกันก็ต้องการผลตอบแทนที่ดี โดยนักลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี คือนำไปลดหย่อนได้ไม่เกินปีละ 300,000 บาท เมื่อนับรวมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ นอกจากนี้ยังมีโอกาสรับกำไรจากมูลค่าหน่วยลงทุนหรือ Capital Gain ที่เพิ่มขึ้น”
ปัจจุบันบลจ.ทิสโก้ มีกองทุน RMF ทั้งหมด 4 กองทุน แบ่งตามนโยบายการลงทุน การยอมรับความเสี่ยง และความคาดหวังในผลตอบแทนจากการลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้มั่นคงเพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตั๋วเงินคลัง มีความเสี่ยงต่ำมาก เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการความมั่นคงของเงินลงทุน, กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และตราสารหนี้ประเภทอื่นๆ มีความเสี่ยงต่ำ เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่สูงกว่าการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์, กองทุนเปิด ทิสโก้ พลทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ เป็นกองทุนผสมแบบยืดหยุ่นลงทุนทั้งในตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้โดยไม่กำหนดสัดส่วน มีความเสี่ยงปานกลาง เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนทั้งจากในตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ และ กองทุนเปิด ทิสโก้ หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีความเสี่ยงสูงสุดและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนสูง จึงเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการความเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว
“ผลการดำเนินงานของกองทุน RMF ของทิสโก้ในช่วงที่ผ่านมา ให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ซึ่งน่าจะมาจากการให้ความสำคัญในการบริหารจัดการกองทุนที่ดูแลนโยบายผ่านระบบคณะกรรมการการลงทุน ซี่งดูทั้งความเสี่ยงและทิศทางการลงทุน เพื่อให้บริษัทสามารถสร้างผลประโยชน์ให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่และมีความชัดเจน โดยเน้นนโยบายที่คำนึงถึงผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ผมเชื่อว่าการออกกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ นี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับกองทุน RMF ในตลาด และยังตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อีกด้วย” นายพิชา กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.ทิสโก้ โทร. 02 633 7351-57 หรือหน่วยลูกค้าสัมพันธ์กองทุนรวม โทร. 02 633 7777 หรือ www.tiscoasset.com
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาหนังสือชี้ชวนและคู่มือภาษีก่อนการตัดสินใจลงทุน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
สุภานี นรสุภา
กมลวรรณ มักการุณ
นิเทศสัมพันธ์
โทร. 02 633 6904-6