กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--บลจ.เอ็มเอฟซี
บลจ.เอ็มเอฟซี ร่วมมือกับ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ส่งกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน AZ Multi Asset MAMG Global Sukuk Fund ชนิด unit class A-ME (USD ACC) เพียงกองทุนเดียว โดยเป็นกองทุนแรกของไทยที่ลงทุนในตราสารศุกูกตามหลักศาสนาอิสลาม เปิดขายครั้งแรกวันที่ 11-31 กรกฎาคม 2561
นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK) เป็นกองทุนแรกของไทยที่ลงทุนในตราสารศุกูก (Islamic Fixed Income) ตามหลักของศาสนาอิสลาม ซึ่งตราสารศุกูกเป็นตราสารแสดงสิทธิในการได้รับผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง ได้รับผลตอบแทนคงที่ (Fixed Rate) จากการถือตราสารศุกูก โดยไม่ใช่ดอกเบี้ย เช่น ค่าเช่า หรือส่วนแบ่งกำไร เป็นต้น
กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก หรือกองทุนเปิด M-SUKUK จะลงทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว คือ AZ Multi Asset MAMG Global Sukuk Fund ชนิด unit class A-ME (USD ACC) ในสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ซึ่งกองทุนดังกล่าวมุ่งที่จะเพิ่มมูลค่าของทรัพย์สินที่ลงทุนในระยะปานกลางถึงระยะยาว โดยลงทุนในตราสารศุกูก รวมถึงหลักทรัพย์ภาครัฐ และหรือหลักทรัพย์ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ หลักทรัพย์ของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ หลักทรัพย์ภาคเอกชน และหรือหลักทรัพย์แปลงสภาพ ที่สอดคล้องตามหลักชารีอะห์ ซึ่งต้องได้รับการตรวจสอบจากคณะที่ปรึกษาชารีอะห์ของกองทุนตามแนวทางที่กำหนด ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ UCITS ที่เสนอขายให้กับนักลงทุนจากประเทศในตะวันออกกลางและในทวีปเอเชีย และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านหลักทรัพย์และตลาดซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศ Luxemburg สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนหลักมีดังนี้ ปี 2560 ร้อยละ 4.47ต่อปี ปี 2559 ร้อยละ 2.78 ต่อปี ปี 2558 ร้อยละ 0.81 ต่อปี และปี 2557 ร้อยละ 3.06 ต่อปี (ข้อมูลเดือนเมษายน 2561 www.azimut-group.com)
นางพัณณรัชต์ บรรพโต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบริหารกองทุนของเอ็มเอฟซี กล่าวว่า เอ็มเอฟซีถือเป็นบลจ. แห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้ศึกษาการลงทุนที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามมาตั้งแต่สิบกว่าปีก่อน โดยกองทุนรวมที่ลงทุนถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามกองทุนแรกของไทยและบริหารโดยเอ็มเอฟซี คือกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสมแบบยืดหยุ่นที่ลงทุนทั้งในตราสารทุน และตราสารหนี้ ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม เอ็มเอฟซียังได้นำเงินส่วนหนึ่งจากค่าธรรมเนียมการบริหารกองทุนนี้ ไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือสังคมอีกด้วย และยังมีกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาวสำหรับเป็นทางเลือกในการลงทุนเพื่อการประหยัดภาษี โดยลงทุนในตราสารทุนของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งผ่านการคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม ทั้งสองกองทุนมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนที่ชนะเกณฑ์มาตรฐานของกองทุน* และจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้อย่างน่าพอใจ ทั้งนี้เอ็มเอฟซีมีความมุ่งมั่นที่จะบริหารกองทุนของบริษัทให้เติบโตแก่นักลงทุน (กองทุนเปิด MIF และกองทุนเปิด MIF-LTF เป็นกองทุนที่มีการลงทุนกระจุกตัวในผู้ออก ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก)
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นว่ากลุ่มนักลงทุนชาวมุสลิมในประเทศมีช่องทางการลงทุนในตลาดเงินของไทยค่อนข้างจำกัด และยังขาดผู้เชี่ยวชาญที่สอดคล้องกับหลักศาสนาในการให้คำแนะนำการลงทุนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งบริษัทตระหนักถึงความสำคัญต่อการส่งเสริมเรื่องดังกล่าวจึงมีการให้บริการ KTBST Islamic Wealth Management ที่ให้บริการที่ปรึกษาการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม ปัจจุบันมีสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้คำแนะนำ (AUA) อยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีซื้อขายหุ้นตามหลักศาสนาอิสลาม(Islamic Equity Account) บัญชีการออมหุ้นอัตโนมัติ (Islamic Smart DCA) บัญชีซื้อขายหลักทรัพย์อัตโนมัติอัจฉริยะตามหลักศาสนาอิสลาม(Islamic Smart Algo) กองทุนส่วนบุคคลตามหลักศาสนาอิสลาม(Islamic Private Fund) ตัวแทนซื้อขายกองทุนรวมตามหลักศาสนาอิสลาม (Selling Agent for Islamic Mutual Fund) เช่น Islamic LTF และ Islamic RMF เพื่อลดหย่อนภาษี
อย่างไรก็ตาม เงินส่วนใหญ่จะลงทุนอยู่หุ้นเท่านั้น KTBST จึงได้ร่วมกับ บลจ.เอ็มเอฟซี ผลักดันการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ คือ กองทุนเปิด เอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK) เป็นกองทุนรวมตราสารศุกูกแห่งแรกของประเทศไทย ที่เป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม (ฮาลาล) ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ศุกูกต่างประเทศ และมีผู้จัดการกองทุนของกองทุนหลัก(Master Fund) ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในเรื่องตราสารศุกูก คือ Azimut & Maybank Asset Management Singapore ซึ่งถือว่าเป็นกองทุน Partner ระดับโลกที่บริหารกองทุนนี้
นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาวะตลาดการลงทุนในตอนนี้ มีความผันผวนมาก เป็นเพราะปัจจัยต่างประเทศทั้งเรื่องสงครามการค้า การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯ รวมไปถึงการเริ่มลด QE ของธนาคารกลางสหรัฐฯกับยุโรป ดังนั้นจัดสรรพอร์ตลงทุนในช่วงนี้จึงต้องเน้นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งตราสารหนี้ศุกูกก็เป็นอีกสินทรัพย์ที่น่าสนใจในแง่การกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่คาดหวังสูงกว่าเงินฝาก มีสภาพคล่องสูง และมีค่าสหสัมพันธ์กับตราสารหนี้ประเภทอื่น ๆ ต่ำซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้ กองทุนเปิด M-SUKUK จึงเป็นกองทุนรวมที่เหมาะกับนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนมุสลิมที่จะเป็นทางเลือกในกระจายการลงทุนในสภาวะตลาดปัจจุบัน โดยเฉพาะนักลงทุนชาวมุสลิมที่กำลังมองหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีและเป็นไปตามหลักศาสนาอิสลาม
นายอรุณ บุญชม ประธานคณะกรรมการชะรีอะฮ์ ของ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กองทุนเปิด M-SUKUK ถือเป็นมิติใหม่ของการลงทุนของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย เนื่องจากกลุ่มนักลงทุนมุสลิม ไม่สามารถลงทุนในตราสารหนี้ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้ได้ เพราะให้ผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ซึ่งเป็นข้อห้ามของศาสนาอิสลาม แต่ตราสารศุกูก ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ ให้ผลตอบแทนเป็นไปตามหลักการของศาสนาอิสลาม โดยมีความเสี่ยงเทียบเคียงกับตราสารหนี้ทั่วไป แต่ในประเทศไทยนั้นยังไม่มีบริษัทใดออกตราสารศุกูก ดังนั้นกองทุนเปิด เอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK) จึงเป็นมิติใหม่ในการลงทุนตราสารศุกูกต่างประเทศผ่านกองทุนหลัก Azimut Global Sukuk Fund ซึ่งผู้บริหารการลงทุนคือ Azimut และ Maybank Asset Mangement Singapore ซึ่งจากผลการดำเนินงานในอดีตก็สามารถสร้างผลตอบได้ให้กับนักลงทุนในกองทุนตราสารศุกูกในระดับที่น่าพอใจ เป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
คุณอิสเรศ มะหะหมัด ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารการลงทุนส่วนบุคคลตามหลักศาสนาอิสลาม(Islamic Wealth Management) บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะที่ทาง KTBST Islamic Wealth Management เป็นตัวแทนซื้อขายกองทุนรวมตามหลักศาสนาอิสลาม (Selling Agent for Islamic Mutual Fund) ในการขายกองทุนรวมอิสลามทุกประเภทในประเทศไทย กองทุนเปิด M-SUKUK ซึ่งเป็นกองทุนตราสารศุกูกแห่งแรกของประเทศไทย เป็นกองทุนที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ปัจจุบันยังมีลูกค้ามุสลิมส่วนมากที่มีความต้องการลงทุนในรูปแบบที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ก็อยากได้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากธนาคารไว้ เนื่องจากปัจจุบันผลตอบแทนเงินฝากธนาคารนั้นมีอัตราที่ต่ำ กองทุนรวมตราสารศุกูก จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจสามารถสร้างโอกาสให้ได้รับผลตอบแทนได้มากกว่าการฝากเงินธนาคาร และกองทุนรวมตราสารศุกูกเป็นตราสารที่มีความเสี่ยงเทียบเคียงได้กับกองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไปจึงมีอัตราความเสี่ยงไม่สูงมากนัก อีกทั้งกองทุนเปิด เอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK)เป็นกองทุนที่ขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto redemption) สามารถตอบโจทก์ลูกค้ามุสลิมที่ต้องการลงทุนที่ได้รับกระแสเงินสดเข้าแบบสม่ำเสมอได้อีกด้วย
สำหรับกองทุนเปิด M-SUKUK เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนในตราสารศุกูก และกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนของผู้ลงทุน และสามารถยอมรับความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศได้ ผู้ที่สามารถลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป ทั้งนี้ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน กองทุนป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนบางส่วนหรือทั้งหมดตามแต่สภาวการณ์ ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
หลังการเสนอขายครั้งแรก กองทุนเปิด M-SUKUK จะเปิดซื้อขายหน่วยลงทุนทุกวันทำการ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทุนขั้นต่ำครั้งแรกได้ตั้งแต่ 10,000 บาท โดยติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุนหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 0-2649-2000 ติดต่อฝ่ายวางแผนการลงทุน กด 2 หรือ Contact Center กด 0 หรือสาขาแจ้งวัฒนะ โทร.0-2835-3055-57 สาขาปิ่นเกล้า โทร. 0-2014-3150-2 สาขาขอนแก่น โทร.043-204-014 สาขาเชียงใหม่ โทร. 053-218-480-82 สาขาภูเก็ต โทร.076-307-070 สาขาระยอง โทร. 033-100-340-2 สาขาพิษณุโลก โทร. 055-008-980-2 สาขาอุบลราชธานี โทร.045-422-890-2 สาขาหาดใหญ่ โทร. 074-232-324 - 25 หรือที่ www.mfcfund.com หรือผู้สนับสนุนการขายหน่วยลงทุน