กรุงเทพฯ--12 ธ.ค.--สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ
กองทัพเรือ โดย ทัพเรือภาคที่ ๒ จัดเครื่องบินลาดตระเวน เรือตรวจการณ์ชายฝั่ง พร้อมกำลังพลชุดปฏิบัติการพิเศษ ออกให้การช่วยเหลือเรือบรรทุกแก๊สประสบเหตุเรืออับปางบริเวณจังหวัดสงขลา หลังจากที่ได้รับแจ้งจากคุณสุรศักดิ์ ประจำค่าย ผู้จัดการบริษัท เวิร์ลไวด์ ทรานสปอร์ต จำกัด เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๕๐ ว่า เรือของบริษัท ชื่อ "แก๊สลีโอ" ระวางขับน้ำ ๘๕๐ ตัน สัญชาติไทย พร้อมด้วยลูกเรือ จำนวน ๙ คน ซึ่งบรรทุกแก๊ส LPG จำนวน ๕๕๐ ตัน พร้อมน้ำมันใช้การ ในจำนวนนี้มีน้ำมันเตา จำนวน ๓๐,๐๐๐ ลิตร และน้ำมันดีเซล จำนวน ๒๐,๐๐๐ ลิตร ได้ประสบเหตุเรืออับปางลงบริเวณหัวเรือโผล่พ้นน้ำประมาณ ๒ เมตร ที่บริเวณแบริ่ง ๓๔๙ ระยะ ๑๒ ไมล์ จากทุ่นแสดงร่องน้ำสงขลา ทุ่นหมายเลข ๓ เป็นเหตุให้คราบน้ำมันได้รั่วไหลลงสู่ทะเลและมีการกระจายเป็นวงกว้างระยะ ๓๐ เมตร ห่างจากตัวเรือ ระยะประมาณ ๓ ไมล์ ความหนาแน่นของน้ำมันเกาะตัวเป็นหย่อม ๆ ซึ่งมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และมีอัตราเฉลี่ยในการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันประมาณ ๑ ไมล์ ต่อ ๘ ชั่วโมง ส่วนลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือขึ้นฝั่งโดยปลอดภัย
สำหรับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้เชิญหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมหารือร่วมกันในการขจัดคราบน้ำมันและช่วยเหลือเรืออับปาง มี สำนักงานขนส่งทางน้ำที่ ๔ สงขลา และคลังปิโตรเลียมสงขลา สนับสนุนอุปกรณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน โดยเรือหลวงปัตตานีดำเนินการวางทุ่นแสดงเครื่องหมาย ที่อยู่เรือจมและขจัดคราบน้ำมันในทะเล โดยนำบูมไปกับเรือหลวงปัตตานีแล้วใช้เรือลากจูง ๒ ลำ จากบริษัทสยามอินเตอร์มารีน ปิดล้อมคราบน้ำมัน เพื่อไม่ให้แพร่กระจายออก ขณะเดียวกัน ทัพเรือภาคที่ ๒ ได้จัดตั้งศูนย์ค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือประสบภัย ตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม และแปรสภาพเป็นศูนย์ควบคุมการปฏิบัติในการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน ตั้งแต่วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๐