กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--ได-อิจิ คิคากุ
ชาร์ป ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดโชว์มิติใหม่ของวิดีโอส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยล่าสุดธีม "Changing the World with 8K" ถ่ายทำโดยใช้กล้องถ่ายวิดีโอเทคโนโลยีชาร์ป 8 เค ตัวแรกของโลก ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก "8K Ecosystem" ที่มอบขีดสุดของความคมชัดเสมือนจริง ให้ความละเอียดกว่าโทรทัศน์แบบ Full HD ถึง 16 เท่า ซึ่งเป็นวิดีโอที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยเทคโนโลยี 8 เค เรื่องแรกในอาเซียน เติมเต็มความสำเร็จของความร่วมมือในโครงการ "Amazing Thailand Amazing 8K" พร้อมเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก
ดร. ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า "วิดีโอส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศไทยที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 8 เค เรื่องแรกของภูมิภาคอาเซียน จะเป็นปรากฏการณ์สำคัญในแวดวงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ สร้างแรงบันดาลใจ และเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ออกเดินทางมาชื่นชมความงดงามที่ไม่สิ้นสุดของเมืองไทย ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในโครงการ "Amazing Thailand Amazing 8K" ซึ่งเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการส่งเสริมภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยวไทย โดยเป็นการนำเทคโนโลยีล่าสุดของชาร์ป "8K Ecosystem" มาใช้ในการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อช่วยนำเสนอภาพความสวยงามของประเทศไทยในมิติใหม่ที่ให้ความคมชัดสูงสุดเสมือนจริงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งชาร์ปได้นำทีมงานถ่ายทำมืออาชีพจากไต้หวัน เดินทางมาบันทึกภาพสถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรม เทศกาล และงานประเพณีในประเทศไทยร่วมกับบุคลากร ททท. โดยใช้กล้องบันทึกภาพเทคโนโลยีชาร์ป 8 เค ตัวแรกของโลกบันทึกช่วงเวลาแห่งความสนุกสนาน และทิวทัศน์อันงดงามของเมืองไทยมานำเสนอสู่สายตาชาวโลก ตามแคมเปญ Open to the New Shades ซึ่งวิดีโอดังกล่าวจะนำไปเผยแพร่ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของ ททท. และผ่านจอภาพ SHARP AQUOS 8K Series ของชาร์ปที่มีเครือข่ายเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก โดยเฉพาะในตลาดเอเชียและอาเซียน"
มิสเตอร์ โยชิฮิโระ ฮาชิโมโตะ กรรมการผู้บริหาร สำนักงานประธานกรรมการ บริษัท ชาร์ป สำนักงานใหญ่ กล่าวว่า "ชาร์ป ไทย และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดนับจากมีการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกันเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา อีกทั้งท่านประธาน ไท่ เจ็ง วู ยังได้รับเชิญจากท่านรองนายกรัฐมนตรีให้เข้าพบเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ด้วยมองว่าชาร์ปนั้นมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นและยาวนานกับประเทศไทย พร้อมกับที่ชาร์ปได้ประกาศวิสัยทัศน์ทางธุรกิจคือ "Changing the World with 8K" เพราะนับตั้งแต่ได้มีการพัฒนา และเปิดตัวโทรทัศน์เครื่องแรกของประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1953 ชาร์ปได้ใช้เวลามากว่าครึ่งศตวรรษในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสำหรับโทรทัศน์ และเมื่อได้ความละเอียดถึงระดับ 8 เค เราพบว่าภาพที่ได้นั้นใกล้เคียงกับภาพจริงที่เรามองเห็นด้วยตามากที่สุด และความรู้สึกที่ได้นั้นเหมือนของจริง จึงเป็นเหตุผลที่เราเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน เพื่อแสดงความสวยงามของระบบ 8 เค ผมขอขอบคุณรัฐบาลไทยที่มอบโอกาสนี้แก่ ชาร์ปในการเข้าร่วมในโครงการ "Amazing Thailand Amazing 8K" เป็นครั้งแรกในอาเซียน เพื่อร่วมกันส่งเสริมจุดแข็งเรื่องแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของไทย และวัฒนธรรมที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานของประเทศให้ทั่วโลกได้รับรู้ และมุ่งหวังให้มีการร่วมมือกันอีกในระดับที่สูงกว่า 8 เค ในอนาคตเช่นกัน"
ด้านนายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า "ความร่วมมือในโครงการ "Amazing Thailand Amazing 8K" ถือเป็นมิติใหม่ของการนำเทคโนโลยีชั้นนำแห่งอนาคตมาเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยว นำเสนอภาพความสวยงามและเสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยว วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรมในประเทศไทย มาเผยแพร่สู่สายตาผู้ชมในรูปแบบของวิดีโอท่องเที่ยวความละเอียด 8 เค ที่ให้มิติของความคมชัดและความจัดจ้านครบถ้วนของเฉดสีต่างๆ สูงกว่าเทคโนโลยี Full HD ถึง 16 เท่า นอกจากนี้ ททท. และชาร์ปยังได้หารือถึงการต่อยอดบูรณาการความร่วมมือครั้งนี้ ด้วยการผลิตวิดีโอท่องเที่ยว 8 เค เรื่องที่ 2 ซึ่งจะขยายขอบเขตการถ่ายทำออกไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลักที่เป็น Highlight และแหล่งท่องเที่ยวเมืองรองในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยมุ่งเน้นนำเสนอผ่านมุมมองการบันทึกภาพและเทคนิคการร้อยเรียงเรื่องราวที่สดใหม่ ไม่จำเจ ตามแนวทางของแคมเปญการตลาด Open to the New Shades"
มิสเตอร์ โรเบิร์ต อู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์ป ไทย จำกัด เผยว่า "อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีว่า จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเยี่มชมความงามของประเทศไทยนั้นเติบโตด้วยอัตราที่ "อเมซิ่ง" ทุกปี นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยนั้นมีอัตราส่วนมากกว่า 27% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในแถบประเทศอาเซียน ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นสถานที่ที่น่าสนใจอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ดังนั้นการร่วมมือผนึกกำลังกันระหว่าง ททท. และชาร์ป ไทย นั้นถือได้ว่าเป็นการเกื้อหนุนและต่อยอดความสำเร็จของทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งความร่วมมือกันถ่ายทำวิดีโอ 8K ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เรายังมี "อเมซิ่ง 8 เค" อีกมากที่จะตามมาในอนาคต เพื่อนำเสนอความงามของประเทศไทยที่มากกว่านักเดินทางจะจินตนาการได้ ดังที่คุณฮาชิโมโตะ เคยกล่าวไว้ถึงเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของ SHARP ไว้ว่า "เราจะเปลี่ยนโลกด้วย ชาร์ป 8 เค" แต่เราจะทำอย่างไรให้มันเกิดขึ้นได้จริง เพราะ 8K ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีที่นำเสนอความละเอียดและความคมชัดของภาพในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และการออกอากาศเท่านั้น แต่เรายังคาดหวังให้นำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์ ระบบการรักษาความปลอดภัย และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 แฃะเมื่อเดือน มิถุนายนที่ผ่านมา ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ได้เดินทางไปพบผู้บริหารของชาร์ปถึง 2 ครั้ง และได้เน้นย้ำถึงนโยบายความสำคัญของ EEC และ โครงการ Thailand 4.0 ซึ่งดูเหมือนว่าโครงการของรัฐและภาคธุรกิจจะเป็นการร่วมมือซึ่งสอดคล้องซึ่งกันและกัน"
ตลอดระยะเวลากว่า 100 ปี ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มอบความสุขและความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตให้แก่คนทั่วโลก "ชาร์ป" ได้จุดกำเนิดนวัตกรรมจำนวนนับไม่ถ้วน ซึ่งเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก "8K Ecosystem" ที่ก่อเกิดจากการรวมจุดแข็งของหลายๆ บริษัทในกลุ่มของชาร์ปมาใช้ในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่จะเปลี่ยนโลกของการมองเห็นของมนุษย์จะสร้างตำนานที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวโทรทัศน์ครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่นในปี ค.ศ. 1953ชาร์ปได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีโทรทัศน์รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้าง "สุดยอดโทรทัศน์" ที่สามารถแสดงภาพได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง ด้วยการปรับสี จอภาพขนาดใหญ่ ขนาดที่บางเฉียบ และให้ภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 8 เค เพื่อส่งมอบความสวยงามของโลก ด้วยขีดสุดของความคมชัดสมจริง ใกล้เคียงกับสิ่งที่มองเห็นด้วยตามนุษย์ ให้ความรู้สึกเสมือนของจริงมาอยู่ตรงหน้า อีกทั้งยังพร้อมต่อยอดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อขยายขอบเขตความสามารถออกไปเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายวงการธุรกิจ ทั้งในวงการแพทย์ ระบบรักษาความปลอดภัย และการตรวจสอบคุณภาพในภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นต้น