กรุงเทพฯ--12 ก.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
ก.ล.ต. นับหนึ่งคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง) บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารประเภท Polypropylene (PP) ถุงบรรจุอาหารและถุงหูหิ้วประเภท High Density Polyethylene (HDPE) ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "หมากรุก" และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร Polyvinyl Chloride (PVC) ภายใต้ตราสัญลักษณ์ "Vow Wrap" เพื่อนำเสนอขายหุ้น 70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท เพื่อขยายโรงงานลงทุนเครื่องจักรใหม่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน คาดเข้า เทรด mai ภายในปีนี้
นายชนะชัย จุลจิราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อย่อ TPLAS เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) ต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 70 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 25.93 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท/หุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในหมวดธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบไฟลิ่ง บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ในเร็วๆนี้
ปัจจุบัน TPLAS มีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 100 ล้านบาท คิดเป็นจำนวน 200 ล้านหุ้น โดยมี ครอบครัวธีระรุจินนท์ ถือหุ้นทั้ง 100% โดยหลังจากการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะทำให้ทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 135 ล้านบาท หรือคิดเป็น 270 ล้านหุ้น ขณะที่ครอบครัวธีระรุจินนท์ ภายหลังการเสนอขายหุ้นหุ้นสามัญแก่ประชาชนครั้งแรกสัดส่วนหุ้นจะลดลงเหลือ 74.19%
ด้าน นายสัมฤทธิ์ชัย ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ 5 บล.เออีซี (AECS) กล่าวเพิ่มเติมว่า ในฐานะฝ่ายวาณิชธนกิจ กล่าวว่า บมจ.ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) หรือ TPLAS มีความพร้อมก้าวสู่การเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยการเข้ามาระดมทุนใน mai ครั้งนี้ จะช่วยตอกย้ำความน่าเชื่อถือ และการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล
ทางด้านผลการดำเนินของบริษัทฯในช่วงปี 2558 มีรายได้จากการขายรวม 489.18 ล้านบาท กำไรสุทธิ 25.2 ล้านบาท ในปี 2559 มีรายได้จากการขายรวม476.58 ล้านบาท กำไรสุทธิ 12.89 ล้านบาท สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปี 2559 ลดลงเนื่องจากเกิดวิกฤตน้ำท่วมภาคใต้ ประกอบกับประเทศไทยเกิดการสูญเสียครั้งสำคัญของประเทศ และในปี 2560 บริษัทฯมีรายได้จากการขายรวม 525.15 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.09 ล้านบาท และในไตรมาส 1/2561 มีรายได้จากการขายรวม 136.58 ล้านบาท กำไรสุทธิ 6.89 ล้านบาท จากปริมาณกำลังการผลิตถุงพลาสติกของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
นายธีระชัย ธีระรุจินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอุตสาหกรรมพลาสติก (1994) จำกัด (มหาชน) หรือ TPLAS กล่าวว่า บริษัทฯเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ถุงบรรจุอาหารประเภท ถุงร้อน ผลิตจากพลาสติกชนิด PP , ถุงขุ่น และ ถุงหูหิ้ว ผลิตจากพลาสติกชนิด HDPE ภายใต้ตรา "หมากรุก" และฟิล์มยืดห่อหุ้มอาหาร ผลิตจากพลาสติกชนิด PVC ภายใต้ตรา "Vow Wrap" โดยมีสโลแกนคือ " มาตรฐาน ทนทาน เหนียวแน่น "
ด้วยศักยภาพด้านเทคโนโลยีการผลิต ส่งผลให้บริษัทฯมีความพร้อมที่จะมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นผู้นำทางด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
สำหรับวัตถุประสงค์จากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อลงทุนสินทรัพย์ ในการขยายอาคารโรงงานใหม่ พร้อมติดตั้งเครื่องจักรใหม่สำหรับการผลิต ผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติก และปรับปรุงอาคารโรงงานเดิม และสำนักงานของบริษัท เพื่อเป็นการรองรับความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์จากถุงพลาสติก พร้อมทั้งยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าอัตรา 30% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น
" TPLAS มีการผลิตสินค้าขนาดที่ใช้ทั่วไปในตลาดแบบ Mass Production เพื่อตอบสนองความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกและฟิล์มถนอมอาหารที่มีมากในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันกำลังการผลิตถุงพลาสติก รวม 10,281.60 ตันต่อปี โดยแบ่งเป็น ถุงพลาสติกประมาณ 850 ตันต่อเดือน ในขณะที่กำลังการผลิตฟิล์มถนอมอาหาร (PVC) อยู่ที่ 1,411.20 ตันต่อปี หรือประมาณ 120 ตันต่อเดือน " นายธีระชัย กล่าว