กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สำนักวิจัยซูเปอร์โพล
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการ สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) มูลนิธิ สถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง วิจัยตลาดบ้านและคอนโดของผู้บริโภค กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวน 1,013 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 1 – 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา พบว่า
ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.4 มีรายได้ครัวเรือนระหว่าง 50,000 – 100,000 บาทต่อเดือน และส่วนใหญ่ร้อยละ 61.8 ทราบแหล่งข้อมูลเรื่องบ้านและคอนโดที่จะซื้อจากเว็บไซต์ซื้อขายบ้านและคอนโด รองลงมาร้อยละ 60.0 ทราบจากโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ร้อยละ 59.3 ทราบจากป้ายโฆษณา จอโฆษณากลางแจ้ง รองๆ ลงไปคือ สื่อโซเชียล เฟสบุค ไลน์ ยูทูป นิตยสารบ้าน คนรู้จักใกล้ชิด เว็บไซต์สำนักข่าวต่างๆ งานออกบูธ เว็บไซต์บริษัท และอื่นๆ เช่น อีเมล เอกสารแผ่นพับบริษัท พนักงานขาย คอมเม้นต์ในสื่อฯ ตามลำดับ เป็นต้น
เมื่อถามถึงปัจจัยที่ใช้ตัดสินใจ พบว่า เกินกว่าสามในสี่หรือร้อยละ 87.3 ระบุว่าราคาเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ รองลงมา ร้อยละ 82.1 ระบุว่าพื้นที่ประโยชน์ใช้สอย และร้อยละ 80.9 ระบุว่าวัสดุที่ใช้ นอกจากนี้รองๆ ลงไปคือ ชื่อเสียงบริษัท ประหยัดพลังงาน ส่งเสริมการขาย และ สิ่งอำนวยความสะดวก ค่าส่วนกลาง กิจกรรมบริษัท ตามลำดับ เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ ในอีก 6 เดือนข้างหน้า คนเกินกว่าครึ่งหรือร้อยละ 55.9 จะซื้อคอนโดฯ มีเพียงร้อยละ 44.1ที่จะซื้อบ้าน โดยร้อยละ 54.8 จะกู้บางส่วนจากสถาบันการเงิน รองลงมาร้อยละ 38.1 จะกู้เต็มจำนวน และส่วนน้อยร้อยละ 7.1 จะซื้อสด ตามลำดับ
เมื่อถามถึงเหตุผลที่จะซื้อ พบว่า เกือบสามในสี่หรือร้อยละ 72.8 ระบุใช้เป็นที่พักอาศัยของตัวเอง โลกส่วนตัว รองลงมาคือร้อยละ 69.9 ระบุใกล้ที่ทำงาน ที่เรียน ร้อยละ 67.1 ระบุสะดวกในการเดินทาง ร้อยละ 64.4 ระบุความปลอดภัย น่าอยู่ และร้อยละ 60.3 ระบุซื้อไว้พักผ่อน ในขณะที่ร้อยละ 43.9 ซื้อไว้ลงทุนให้เช่า ไว้ขายต่อ ตามลำดับ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 89.1 ให้ความสำคัญกับห้องนอนมากที่สุด รองลงมาคือ ร้อยละ 83.4 ให้ความสำคัญกับ ห้อง / มุมพักผ่อน ร้อยละ 74.5 ให้ความสำคัญกับห้องอาหาร รองๆ ลงไปคือ ห้องครัว ห้องน้ำ สวน และระเบียง ตามลำดับ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.5 เชื่อหลักฮวงจุ้ย