กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมดันครัวไทยสู่ครัวโลกแบบครบวงจร เน้นส่งเสริมร้านไทยซีเล็คท์ (Thai Select) และงานแฟร์เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนอาหารไทย ด้านเอสเอ็มอีปลื้มงานTHAIFEX 2018 ช่วยเพิ่มตลาดส่งออก ฟุ้งยอดขายพุ่งกว่า 20 เท่าต่อเดือน
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ มอบหมายให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นเจ้าภาพในการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยด้านธุรกิจสินค้าทางการเกษตร หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากภาคเกษตรและธุรกิจด้านอาหารของไทย ในการขยายฐานการค้าออกสู่ตลาดต่างประเทศแบบครบวงจร ตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในอุตสาหกรรมอาหารไทย ภายใต้โครงการ"ครัวไทยสู่ครัวโลก"
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ต้องการให้ร้านอาหารไทยในต่างประเทศที่ได้รับเครื่องหมายไทยซีเล็คท์ (Thai Select)เป็นกลไกหลักในการผลักดันและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับอาหารไทยทั่วโลก ดังนั้นกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เร่งผลักดันกิจกรรมใหม่ๆ และกิจกรรมที่ดำเนินการอยู่แล้ว เพื่อให้ผู้บริโภคในต่างประเทศที่ต้องการรับประทานอาหารไทย เข้ามาใช้บริการในร้านที่มีเครื่องหมายไทยซีเล็คท์ เท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมามีร้านอาหารในต่างประเทศจำนวนมากที่ใช้ชื่อร้านอาหารไทยหรือไทยฟู้ด เพื่อจูงใจให้ลูกค้ามาใช้บริการแต่รสชาติและความอร่อยไม่เหมือนกับอาหารไทย
นางจันทิรา กล่าวว่า โดยกรมฯ มีการวางแผนการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อเร่งผลักดันให้โครงการนี้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ เช่น การจัดงานแสดงสินค้าหรืองานแฟร์ และจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมามีการจัดงานแฟร์มากถึง 98 โครงการ หรือกว่า 329 กิจกรรม ซึ่งจะมีสินค้ากลุ่มอาหารและเกษตรแปรรูปรวมอยู่ด้วย และในปีนี้ก็จะมีกิจกรรมที่ใกล้เคียงกัน เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าของไทยและสร้างเครือข่ายให้กับผู้ประกอบการ เชื่อมโยงนักลงทุนต่างชาติเข้าสู่สินค้าไทยโดยเฉพาะงาน THAIFEX – World of Food Asia ที่ได้รับการชื่นชมจากผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ "ขณะนี้ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศอยู่ระหว่างการเจรจาความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ตามนโยบายท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการโปรโมทร้านอาหารไทยโดยเฉพาะเครื่องหมายไทยซีเล็คท์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในประเทศไทยปีละกว่า 35 ล้านคนได้รู้จัก และจดจำเครื่องหมายไทยซีเล็คท์ว่าเป็นร้านอาหารที่ได้รับการรับรองว่าเป็นอาหารของไทยอย่างแท้จริง" นางจันทิรา กล่าว
นายเธียรภัทร รัศมีไพฑูรย์ กรรมการผู้จัดการ บจก. สยาม ดิลิเชียส ผู้ผลิตอาหารไทยแปรรูปผ่านนวัตกรรมการทำให้แห้งผ่านจุดเยือกแข็งแบบสูญญากาศ (Freeze dry) กล่าวว่า บริษัทฯ มีสินค้าอยู่ 4 ประเภท ได้แก่ ต้มยำกุ้ง ส้มตำ ยำมะม่วง และต้มข่าไก่ ภายใต้ชื่อแบรนด์ยัมสยาม (YUM SIAM) โดยที่ผ่านมาได้วางจำหน่ายภายในประเทศตามร้านขนาดใหญ่หรือโมเดิร์นเทรดต่างๆ แต่เมื่อเราได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าที่งาน THAIFEX – World of Food Asia 2018 ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการออกงานแฟร์ระดับประเทศเป็นครั้งแรก ซึ่งผลตอบรับดีเกินความคาดหมายประสบความสำเร็จอย่างมาก เนื่องจากนักธุรกิจหลายประเทศสนใจที่จะนำสินค้าไปจำหน่าย ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจาเรื่องการส่งออก อาทิ ไอร์แลนด์, มาเลเซีย, เกาหลี, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, ไต้หวัน, สหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง และจีน เราคาดว่าจะสามารถเพิ่มรายได้และขยายช่องทางการตลาดได้มาก จากเดิมบริษัทฯ มียอดขายประมาณ 2 แสนบาทต่อเดือน จะสามารถเพิ่มเป็น 4 ล้านบาทต่อเดือน หรือสูงขึ้นถึง 20 เท่าเลยทีเดียว"
"หลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เราได้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสด้านการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม จึงเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าไปพร้อมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐ ทำหน้าที่เป็นเสมือนพี่เลี้ยงที่จะช่วยเสริมและสร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการของไทย จะเป็นก้าวย่างที่มั่นคง และทำให้บริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบยั่งยืนได้อย่างแน่นอน" นายเธียรภัทร กล่าว
นายเธียรภัทร กล่าวต่อว่า หลังจากได้รับโอกาสเรื่องช่องทางการค้าในต่างประเทศ และยอดการสั่งซื้อที่มากขึ้นแล้ว จากนี้เพื่อเป็นการยกระดับสินค้าและสร้างมาตรฐานการส่งออกอย่างมีประสิทธิภาพ ทางบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญในการเข้าอบรมกับสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่(NEA) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เช่น หลักสูตรติดปีกเอสเอ็มอีไทย บินไกลสู่ตลาดโลก หรือหลักสูตรการส่งออกเบื้องต้น เป็นต้น เพื่อพัฒนาความรู้ให้รอบด้านโดยเฉพาะด้านการส่งออก และจะนำมาปรับใช้กับสินค้าของเราต่อไป
ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th หรือโทรสายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169