กรุงเทพฯ--16 ก.ค.--
UREKA เผยกลยุทธ์ในครึ่งปีหลังมุ่งเน้นเจาะลูกค้ากลุ่ม Non-Automotive มากขึ้น และเน้นรับงานระบบ Production Automations, Logistics Automation และ Robots Application ขณะที่ยังรักษาฐานลูกค้าเดิมในกลุ่ม Automotive ด้าน "วิเชษฐ์ เมืองจันทร์" เอ็มดี ระบุเดินหน้ายื่นประมูลงานใหม่ มูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท คาดทยอยรู้ผลใน Q3/61 มั่นใจรายได้ปีนี้เข้าเป้าโตไม่ต่ำกว่า 30%พร้อมเพิ่มเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 30-35% จากเดิมที่วางไว้ 25%
นายวิเชษฐ์ เมืองจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเรกา ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) หรือ UREKA เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในครึ่งปีหลังว่า บริษัทฯจะมุ่งเน้นเจาะลูกค้ากลุ่ม Non-Automotive มากขึ้น พร้อมกับเน้นหางานที่เป็นระบบ Production Automations, Logistics Automation และ Robots Application มากขึ้น ในขณะที่กลุ่มลูกค้าเดิม Automotive ก็คงยังรักษาความสัมพันธ์ไว้เช่นเดิม
ปัจจุบันบริษัทฯได้เข้ายื่นประมูลงานไปแล้วมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็นงานกลุ่มลูกค้า Automotive ประมาณ 150 ล้านบาท งานกลุ่มลูกค้า Non-Automotive อีกประมาณ 550 ล้านบาท และคาดว่าจะทราบผลภายในไตรมาส 3/2561 รวมมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคาดว่าจะรู้ผลหลังจากไตรมาส 3/2561 ไปแล้ว
กรรมการผู้จัดการ UREKA กล่าวอีกว่า บริษัทฯยังคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้ เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2561 ที่ผ่านมาทำได้ดี ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2561 คาดว่าจะดีกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หลังจากมียอด Backlog เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯได้ปรับเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) เพิ่มเป็น 30-35% จากเดิมที่วางไว้ 25%
"เรายังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้ แต่จะขยับเป้าหมายการสร้างอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 30-35% จากเดิมที่วางไว้ 25% เนื่องจากแผนเดิมเราใช้ข้อมูลของปีที่ผ่านมานำมากำหนดเป้าหมายสำหรับปีนี้ แต่หลังจากผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริงในไตรมาส 1/2561 เกิดจากเราจัดการบริหารต้นทุนทางตรงให้ดีขึ้น ทำให้สามารถทำกำไรขั้นต้นได้ดีกว่าที่ประมาณการไว้ ดังนั้นจึงปรับเป้าหมายให้สอดคล้องกับความจริง" นายวิเชษฐ์ กล่าว
สำหรับแผนการขยายตลาดต่างประเทศ บริษัทฯยังคงมุ่งเน้นฐานลูกค้ารายเดิมที่มีกำลังซื้อสูง แต่ก็สามารถสร้างการยอมรับในผลิตภัณฑ์ Special Machine ได้มากขึ้น ทำให้มีโอกาสแข่งขัน Bidding งานจำนวนมากขึ้นกว่าเดิม